Yearly Archives: 2015

ดอยทีเขาว่ากัน ก็จะเป็นจุดที่ราคาขึ้นมาสูงที่สุด หรือสูงมากๆ เมื่อเทียบกับประวัติราคาในอดีตของหุ้นตัวนั้นครับ แล้วช่วงเวลาต่อมา ราคากลับถูกตบลง เหมือนภูเขาราคา ที่ขึ้นไปสูงสุด ทำจุดพีค แล้วโค้งลง จนกลายเป็นดอยในที่สุด อ้าว แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าตรงนี้เป็นดอย??     นักลงทุนอย่างพวกเรามักจะตอบคำถามนี้ได้ต่างกันครับ แต่คำตอบก็มักจะคอนเฟิร์มกันอยู่ว่า ทำไมถึงเป็นแบบนั้น อย่างเช่น บางท่านบอก อ๋อ!! เริ่มรู้ว่าเป็นดอยจาก เปิดเจอหุ้นที่ติดเรดาร์ Candle Pattern ที่แสดงสัญญาณว่าจะลง หรือบางท่านบอกว่า ดูจากหุ้นที่ติดเรดาร์...

ก่อนอื่น ขอแนะนำปัจจัย 3 ตัวที่เกี่ยวข้อง คือ 1. Inflation targeting หรือ อัตราเงินเฟ้อนั่นเอง ซึ่งโดยทั่วๆไปจะรักษาให้คงอยู่ในระดับ 2-3% ออ ... ส่วน Deflation นี่มันคือเจ้าตัว “เงินฝืด” นะครับ 2. Policy Rate หรือ อัตราดอกเบี้ยนโยบาย เป็นเครื่องมือในการส่งสัญญาณทางการเงินของรัฐบาล โดยมี...

  เพราะการเล่นหุ้นมีหลายวิธี หลายเทคนิคในการวิเคราะห์ ครับ!! จึงเกิด "สาย" ของนักลงทุนขึ้น ลองมาดูกันครับว่าสายที่ว่านี่คืออะไร?   นักลงทุนสายพื้นฐาน  นักลงทุนสายพื้นฐาน หรือนักลงทุนที่ใช้แนวคิดการซื้อหุ้น เพื่อเข้าไปเป็นเจ้าของกิจการนั้นจริงๆ พวกเขามองว่ากิจการนั้นจะเติบโต และจะสร้างผลตอบแทนเป็นที่น่าพอใจได้ในอนาคต พวกเขามักจะถือหุ้นในระยะยาว ถึงยาวมากๆครับ และมักจะเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า “ Value Investor ” หรือนักลงทุนเน้นคุณค่าครับ ผู้ที่ถือว่าเป็นไอดอลของนักลงทุนเน้นคุณค่า คงจะหนีไม่พ้น Warren Buffett มหาเศรษฐีระดับโลก ผู้ที่สร้างความมั่งคั่งจากการลงทุนแบบเน้นคุณค่า...

  ค้อน คือ เครื่องมือที่มีด้ามจับยาว หัวตอกนิดเดียว แต่มีพลังแรงสูงเลยครับ เหมือนกับตอนที่ราคาเหวี่ยงสุดๆ ลากลงมาลึกมากๆ แต่กลับมีแรงซื้อตอนปิด ทำให้กลับมาปิดสูงได้ นั่นก็เหมือนกับ เสียงส่วนใหญ่ไม่อยากให้ลงแล้ว เกิดการต่อสู้กันระหว่างแรงซื้อกับแรงขาย แต่แรงซื้อเอาชนะได้ นี่จึงเป็น Pattern แบบหนึ่งที่คล้ายๆ กับก้นเหวที่มี ฮ.หย่อนเชือกลงมาเตรียมดึงเราขึ้นแล้วครับ และในอีกมุมหนึ่ง ถ้าก่อนหน้านี้ ราคาวิ่งขึ้นมาตลอด จู่ๆ เกิดลากขึ้นสูง แล้วถูกตบกลับ ปิดลงมาต่ำมากๆ...

  1. มีตัวช่วยเยอะเกิน เรียนรู้เยอะ มันดีล่ะครับ แต่!!! รู้เยอะ แล้วใช้มันเปะปะ ปนกันไปหมดรึเปล่า อย่างเวลาเลือกหุ้น ดูทั้งเศรษฐกิจ พื้นฐาน เทคนิคเทพๆ หลายตัว แล้วเจอมันแสดงสัญญาณขัดแย้งกัน ทีนี้ทำอะไรไม่ถูก ซื้อแล้วลังเลไปตลอด แล้วก็จะขายหมูไปบ่อยๆ 2. เลือกใช้ของ ผิดหน้าที่ เครื่องมือมีเยอะมาก แต่พลาดตรง ไม่รู้วัตถุประสงค์ที่แท้จริงของเครื่องมือนั้น ว่าถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่ออะไร บางเครื่องมือเขาเอามาให้ใช้กับหุ้นดีๆ ราคาไม่เหวี่ยงมาก แต่เราเอาไปใช้กับหุ้นปั่น...

  1. อย่าซื้อขายตามข่าวลือ เพราะบางครั้งคุณอาจเป็นคนสุดท้ายที่ทราบข้อมูล 2. อย่าลงทุนในบริษัทที่คุณไม่เข้าใจ Warren buffet มักพูดถึงเรื่อง Circle of competency คือ การลงทุนในบริษัทที่คุณรู้จัก คุ้นเคย คุณจะมีความได้เปรียบกว่า 3. อย่าสับสนระหว่างการลงทุนกับการเก็งกำไร การเก็งกำไรดำเนินระยะสั้น การลงทุนนั้นมีระยะยาว ฉะนั้นควรเลือกหนทางที่คุณสบายใจ และเสี่ยงต่อการขาดทุนน้อยที่สุด 4. อย่าตกใจในวิกฤติระยะสั้น ความผันผวนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องปกติ ฉะนั้นนักลงทุนควรศึกษาข้อมูลในเรื่องของการกระจายความเสี่ยง และการเลือกประเภทการลงทุนที่เหมาะสม จงอย่ากังวลกับความผันผวนของราคาหุ้นในระยะสั้น 5. หากคุณต้องการเงินสดในระยะสั้น อย่าเลือกลงทุนในหุ้น การลงทุน "ระยะสั้น" มีความเสี่ยงสูง...

  เส้นค่าเฉลี่ย" หรือ เส้นเล็กๆ ที่ลอยทับอยู่บนกราฟแท่งเทียน เส้นสีๆ ที่เอาราคาย้อนหลังมาคิดหาค่าเฉลี่ยครับ ถ้าเฉลี่ยแบบธรรมดา เรียกว่า SMA หรือ คิดแบบถ่วงน้ำหนัก เราก็เรียกมันว่า EMA ครับ เราจะนำราคาเฉลี่ยย้อนหลังของทุกๆ วันมาต่อกันเป็นเส้น แล้ว Plot ทับลงไปอยู่กับแท่งเทียน จากภาพ ผมให้ EMA10 เป็นสีฟ้า และ EMA30...

  1 - Be Proactive ต้องเลือกแนวทางการลงทุน ยึดมั่น และต้องรับผิดชอบต่อทางเลือกนั้นๆ หากลงทุนระยะยาว จะต้อง “อดทนรวย” และ หากลงทุนระยะสั้น “ต้อง Cut loss” ที่สำคัญที่สุด ต้อง “มีวินัย” ในการลงทุนไม่ว่าจะรูปแบบใดก็ตาม 2 - Begin with the End in...

ระหว่างที่ "หุ้นขึ้น" อยู่ดีๆ แล้วมีแรงขาย "ทุบฮวบ" กดหุ้น "หล่น" ลงมา พร้อม "วอลุ่ม" ที่หนาแน่น เป็นการยืนยันว่าหุ้นตัวนั้น "หมดรอบ" แล้ว การทำศึกในตลาดหุ้น เรื่องของ "วอลุ่ม" ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการรบ "เสี่ยยักษ์" วิชัย วชิรพงศ์ แนะนำเคล็ดลับในการดู "วอลุ่ม" เพิ่มเติมว่า ถ้า...

  ตอนนี้การลงทุนในหุ้นได้รับความนิยมมากขึ้น หลายต่อหลายคนเข้ามาในตลาดหุ้นด้วยจุดประสงค์ที่ต่างกัน เช่น เห็นเพื่อนรวยจากตลาดหุ้นเลยสนใจ,เห็นหนังสือหุ้นบนแผงมีอยู่มากมายทำให้สนใจ ฯลฯ หากคุณยังหาเหตุผลให้ตัวเองไม่ได้ว่าทำไมถึงต้องศึกษาการลงทุนในตลาดหุ้น ลองอ่านบทความนี้ดู คุณอาจจะได้คำตอบที่ชัดเจนขึ้น     หนึ่ง..มหาเศรษฐีอันดับต้นๆของโลก ล้วนแล้วแต่เป็นเจ้าของหุ้นทั้งสิ้น โดยเฉพาะ วอเรน บัฟเฟต ผู้ร่ำรวยติดสามอันดับแรกของโลกก็มีอาชีพเป็นนักลงทุน หรือบิล เกต ก็ร่ำรวยจากการถือหุ้นบริษัทไมโครซอฟท์ที่เขาสร้างขึ้น ถ้าหากไปดูอันดับมหาเศรษฐีของฟอร์บส เกือบทั้งหมดเป็นเจ้าของกิจการที่ถือหุ้นในบริษัทตัวเอง เรียกได้ว่าแทบไม่มีใครที่เป็นลูกจ้างจะมีชื่อติดอันดับเศรษฐีได้ มีคำกล่าวว่า เศรษฐีล้วนแต่ถือครองทรัพย์สินเพียงสองอย่างเท่านั้นคือ ที่ดินและหุ้น ดังนั้น…ศึกษาเรื่องหุ้นไว้เถอะครับ   สอง..หุ้นให้ผลตอบแทนย้อนหลังดีกว่าลงทุนอย่างอื่น โดยเฉลี่ยตลาดหุ้นทั่วโลกสามารถสร้างผลตอบแทนอยู่ที่ 7-10%ต่อปี สำหรับตลาดหุ้นไทย ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ระบุว่าผลตอบแทนย้อนหลังระหว่างปี...