วอลสตรีท เจอร์นัล รายงานอ้างแหล่งข่าวว่า Visa, Mastercard, PayPal และสถาบันการเงินอีกหลายแห่ง อาจถอนตัวจากการเป็นพันธมิตรสนับสนุนการพัฒนา Libra เงินดิจิทัลของ Facebook หลังเจอแรงกดดันจากหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐและยุโรป
หลังการรายงานของวอลสตรีท เจอร์นัล David Marcus ผู้รับผิดชอบโปรเจ็ค Libra โพสต์ทวิตเตอร์ว่า ยังไม่ทราบว่ามีองค์กรใดที่วางแผน “ถอนตัว” และจะประกาศสมาชิกชุดแรกของ Libra Association อย่างเป็นทางการในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งในวันที่ 14 ต.ค.นี้ ทาง Libra Association จะจัดประชุมตัวแทนจากองค์กรต่างๆ เพื่อแต่งตั้งบอร์ดบริหาร
ขณะที่ก่อนหน้านี้ Alfred Kelly ซีอีโอของ Visa กล่าวว่า ทางบริษัทได้ลงนามหนังสือแสดงเจตจำนงลักษณะไม่ผูกพัน (Non-binding Letter of Intent) เพื่อแสดงความสนใจเข้าร่วมโปรเจ็ก Libra แต่ยังไม่ได้เข้าร่วม และก่ารเข้าใจข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการเป็นสิ่งสำคัญ
“เราเซ็นหนังสือแสดงเจตจำนงลักษณะไม่ผูกพันเพื่อเข้าร่วม Libra ผมคิดว่าเราเป็นหนึ่งใน 27 องค์กรที่แสดงความสนใจ แต่ยังไม่ได้เข้าร่วมอย่างเป็นทางการ”
Facebook วางแผนเริ่มใช้งาน Libra ในปีหน้า ซึ่งเป็นเงินดิจิทัลแรกของบริษัท ที่มุ่งเจาะกลุ่มผู้ใช้ Facebook กว่า 2,700 ล้านคนทั่วโลก โดย Libra จะผูกกับตระกร้าสกุลเงิน ซึ่งตอนนี้มีอยู่ 5 สกุลเงิน เพื่อป้องกันมูลค่าผันผวน และจะมี Libra Association คอยควบคุมดูแล
อย่างไรก็ดี รัฐบาล ธนาคารกลาง และหน่วยกำกับดูแลทางการเงินหลายแห่งทั่วโลก วิตกว่า Libra เสี่ยงบั่นทอนเสถียรภาพของระบบการเงิน และกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูลผู้บริโภค หลังเคยเกิดกรณี Facebook ทำข้อมูลผู้ใช้รั่วไหล
แบงก์ชาติจีนปัดข่าวออก “ดิจิทัลหยวน” เดือนหน้า
ขณะเดียวกัน อี้กัง ผู้ว่าการธนาคารกลางจีน (PBOC) ออกมาปฏิเสธว่า จีนไม่มีแผนออกเงินหยวนดิจิทัล หรือ Central Bank Digital Currency (CBDC) ในเดือยน พ.ย. ส่วนข่าวที่ว่ามีหน่วยงานและองค์กรต่างๆ มีส่วนร่วมในการกระจายเงินดิจิทัลนั้นเป็นความเข้าใจผิดเช่นกัน
แถลงการณ์จาก PBOC ระบุว่า “ข่าวลือออนไลน์” ที่มาจาก “แหล่งข่าวอินเตอร์เน็ตจำนวนมาก” ไม่เป็นความจริง
ก่อนหน้านี้ Forbes รายงานว่า แบงก์ชาติจีนจะออกเงินดิจิทัลอย่างเร็วที่สุดในวันที่ 11 พ.ย.นี้ และได้มอบหมายให้สถาบัน 7 แห่งที่รวมถึง Alibaba และ Tencent กระจายการใช้งานเงินดิจิทัลนี้ไปยังประชากร 1,300 ล้านคนทั่วประเทศ
แม้ปฏิเสธข่าวกำหนดเวลาการออกเงินหยวนดิจิทัล แต่ PBOC ยืนยันว่าจะออกโครงการที่เป็นการผสานการใช้เงินดิจิทัลของแบงก์ชาติเข้ากับระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ (DCEP) โดยมีเป้าหมายเอามาใช้แทนเงินสด
ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนยืนยันว่า แผนเงินดิจิทัลของแบงก์ชาติจะไม่กระทบต่อระบบและซัพพลายเงินตราที่มีอยู่
แล้วเงินดิจิทัลจีนจะสู้ Libra ได้หรือไม่
แม้ขณะนี้ แบงก์ชาติจีนยังไม่ฟันธงกำหนดเวลาในการออกเงินหยวนดิจิทัล แต่ข่าวดังกล่าวได้สร้างความตื่นตัวให้ทั่วโลก และหลายฝ่ายเริ่มนำเงินหยวนดิจิทัลไปเปรียบเทียบกับ Libra ของ Facebook
China Securities บริษัทหลักทรัพย์ของจีนมองว่า อุปสรรคของเงินหยวนดิจิทัลคือยังไม่มีความเป็นสากลมากพอ เมื่อเทียบกับ Libra ที่เข้าถึงคนกว่า 2,700 ล้านคน
“เงินดิจิทัลของจีนผูกไว้แค่กับเงินหยวน เลยไม่สามารถไปแข่งกับ Libra ได้ แม้จะดึงบริษัทยักษ์เทคโนโลยีอย่าง Alibaba และ Tencent มาเข้าร่วมได้ก็ตาม”
นอกจากนี้ ขอบเขตการใช้งาน Libra ยังกว้างกว่าเงินหยวนดิจิทัล เห็นได้จากการที่ Facebook ไปเป็นพันธมิตรกับองค์กรในหลายภาคอุตสาหกรรม เช่น บริษัทโทรคมนาคม บริการให้บริการชำระเงิน และบริษัทในแชริ่ง อีโคโนมี
ขณะที่ Zhu Min อดีตรองผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) กล่าวว่าจีนไม่ควรอยู่นอกวงในด้านการพัฒนาเงินดิจิทัล แต่ควรหาพันธมิตรกับแบงก์ชาติอื่นๆ ที่สนใจเงินดิจิทัลเหมือนกัน เช่น สิงค์โปร์ หรือสวีเดน เพื่อทำให้เงินดิจิทัลหยวนที่วางแผนเปิดตัวในอนาคตมีความเป็นสากลมากขึ้น
ลูกค้าถอนสินทรัพย์ออกจาก BX แล้ว 90%
สำหรับสถานการณ์ในแวดวงเงินดิจิทัลของไทยนั้น การประกาศยุติการเป็นศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัท บิทคอยน์ จำกัด หรือ BX ทำให้ลูกค้าต้องถอนสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากแพลตฟอร์ม
ล่าสุดนั้น นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ขณะนี้ลูกค้าของ BX ได้ถอนสินทรัพย์ดิจิทัลออกจากแพลตฟอร์มแล้ว 90%
ก.ล.ต. ได้กำชับให้ BX ดำเนินการแจ้งลูกค้าที่ยังมีทรัพย์สินอยู่ที่บริษัทให้มาติดต่อขอรับคืนหรือโอนย้ายทรัพย์สิน รวมทั้งเพิ่มวิธีการในการติดต่อลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่า ลูกค้าที่ยังไม่ได้ติดต่อบริษัทในช่วงที่ผ่านมาได้รับทราบข้อมูลการยุติการให้บริการศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและมารับโอนทรัพย์สินคืนเป็นไปตามแผนของ BX
You must be logged in to post a comment.