London Stock Exchange (LSE) บริษัทแม่ของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ปฏิเสธข้อเสนอขอซื้อธุรกิจจาก Hong Kong Exchanges & Clearing (HKEX) บริษัทแม่ของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง มูลค่า 3.66 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.11 ล้านล้านบาท นับได้ว่าเป็นข่าวที่ไม่น่าแปลกใจนัก หลังหลายฝ่ายมองว่าดีลนี้ไม่น่าจะไปต่อได้จากอุปสรรคหลายอย่าง
บอร์ดของ LSE มีมติเอกฉันท์ในการปฏิเสธดีลดังกล่าว โดยระบุว่า “ข้อเสนอนี้มีจุดบกพร่องพื้นฐานหลายอย่าง และมองไม่เห็นประโยชน์ที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในข้อเสนอต่อ”
LSE เปิดเผยจดหมายแจ้งต่อ HKEX ในการปฏิเสธข้อเสนอ ดังนี้
- ความวิตกเรื่องระเบียบการกำกับดูแลจากรัฐบาลของหลายประเทศ ทั้งสหราชอาณาจักร สหรัฐ และอิตาลี
โดยเฉพาะจากรัฐบาลอังกฤษที่เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า “LSE เป็นส่วนสำคัญของระบบการเงินของอังกฤษ” และจะดำเนินการตรวจสอบดีลดังกล่าวอย่างเข้มงวดรัดกุม
- ทาง LSE เป็นพันธมิตรกับตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้อยู่แล้ว ซึ่งมองว่าเป็นช่องทางที่ดีกว่าและตรงกว่าในการเข้าถึงตลาดจีน
- “ความไม่แน่นอน” เรื่องมูลค่าสัดส่วนหุ้นและโครงสร้างธุรกิจหลังการเทคโอเวอร์ ซึ่งมีสาเหตุมาจากความปั่นป่วนทางการเมืองในฮ่องกง
หลังข่าวดังการปฏิเสธดีล หุ้นของ LSE ปรับตัวขึ้น 1.6% ทันที โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันพุธ หุ้น LSE พุ่งขึ้นมาถึง 16% จากข่าวที่ HKEX เสนอซื้อธุรกิจตลาดหุ้นลอนดอนเพื่อควบรวมกับตลาดหุ้นฮ่องกง
น่าสังเกตว่า ข่าวการปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าวเกิดขึ้นหลังบอร์ด LSE ไม่เห็นชอบกับเงื่อนไขที่ HKEX ระบุให้ LSE ต้องทิ้งข้อเสนอซื้อกิจการบริษัทให้บริการข้อมูลทางการเงินที่ชื่อ Refinitiv มูลค่า 2.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐช่วงก่อนหน้านี้ เพราะมองว่าการซื้อกิจการ Refinitiv จะเป็นประโยชน์ต่อ LSE มากกว่าการควบรวมธุรกิจตลาดหุ้นลอนดอนและตลาดหุ้นฮ่องกง