ภาวะหุ้นฟื้นตัวมาได้ไม่กี่เดือน ซึ่งเป็นจังหวะพอดีกับที่บริษัทที่เตรียมเสนอขายหุ้นเป็นครั้งแรก (ไอพีโอ) มีการปิดงบผลประกอบการประจำปี 2561 ทำให้บริษัทแก้ไขและพร้อมยื่นคำเสนอรายการ (ไฟลิ่ง) กับสำนักงานคณะกรรมการหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) และทยอยอนุมัติไฟลิ่งจนมีคิวต่อแถวเตรียมจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ (SET) และตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) ตลอดช่วงไตรมาส 3 และไตรมาส 4 นี้
- นับจากนี้อย่างน้อยมีหุ้นที่พร้อมขายไอพีโอและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์อย่างต่อเนื่อง สัปดาห์ละ 1 แห่ง ในช่วง 3 อาทิตย์หลังจากนี้ เริ่มตั้งแต่ บริษัท อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM) ผู้นำธุรกิจร้านค้าปลีกของตกแต่งบ้านที่กำลังอยู่ในช่วงเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรกถึงวันที่ 19 ก.ค. จำนวนไม่เกิน 105 ล้านหุ้น หรือ 20.8 % ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วบริษัท ที่ราคาขาย 22 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายหลังสำรวจความต้องการซื้อหลักทรัพย์จากนักลงทุนสถาบัน (Bookbuilding) และพร้อมเข้า SET วันที่ 26 ก.ค. นี้
- ขณะที่วันจันทร์ที่ 22 ก.ค.นี้ บริษัท คัมเวล คอร์ปอเรชั่น (KUMWEL) ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ระบบต่อลงดินและระบบตรวจจับและเตือนภัยฟ้าผ่า จะแต่งตั้งผู้จำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย (อันเดอร์ไรท์) และคาดว่าจะมีการจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรกในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ก.ค. ที่คาบเกี่ยวช่วงต้นเดือน ส.ค. นี้
- วันนี้ (18 ก.ค.) บริษัท ดูโฮม (DOHOME) ที่ดำเนินธุรกิจการค้าปลีกและค้าส่งในการให้บริการด้านวัสดุก่อสร้าง ได้แถลงความพร้อมเตรียมเสนอขายหุ้นไอพีโอโดยคาดว่าจะสามารถกำหนดราคาเสนอขายได้ในวันที่ 23 ก.ค. นี้ เพราะจะมีการสำรวจความต้องการนักลงทุนสถาบันก่อน และน่าจะมีการจดทะเบียนซื้อขายที่ SET ประมาณวันที่ 6 ส.ค. นี้
- แต่จากการเปิดเผยของ “อนุวัฒน์ ร่วมสุข” กรรมการผู้จัดการ หัวหน้าฝ่ายตลาดทุน สายงานวานิชธนกิจและตลาดทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ภัทร ที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาก็มีการนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุนสถาบันมาสักระยะแล้วประมาณ 30 แห่ง และเบื้องต้นน่าจะมีการเสนอขายให้กับนักลงทุนสถาบันถึง 60 % และที่เหลือ 40 % เป็นนักลงทุนรายบุคคล
- โดยการเสนอขายหุ้นสามัญครั้งนี้จัดสรรหุ้นสามัญจำนวนไม่เกิน 465 ล้านหุ้น หรือ 25.1 % ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด โดยหุ้นไอพีโอแบ่งเป็นเสนอขายหุ้นใหม่ 456 ล้านหุ้น และเสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิมไม่เกิน 8.88 ล้านหุ้น นอกจากนี้ อาจจะมีการจัดสรรส่วนเกินจำนวนไม่เกิน 56.16 ล้านหุ้น (กรีนชู) ซึ่งอาจะทำให้มีหุ้นออกเกิน 521.2 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 28.1 % ของที่เรียกชำระแล้วทั้งหมด
“ปัจจุบันถือว่าภาวะตลาดหุ้นโดยรวมและ Sentiment ดีขึ้น หลังภาพการเมืองมีความชัดเจนมากขึ้น แต่เหตุผลที่ออกกรีนชูไว้เผื่อ ก็เพื่อรองรับซัพพลายหากวันแรกมีคความต้องการเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันอีกนัยหนึ่งกรีนชูสามารถที่ช่วยรักษาเสถียรภาพราคาการซื้อขายวันแรกไม่ให้ต่ำกว่าราคาจอง”อนุวัฒน์กล่าว
- ทั้งนี้ ครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีหุ้นไอพีโอที่เข้าตลาดหลักทรัพย์แล้วหลายตัวราคาต่ำกว่าราคาจอง เนื่องจากดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทรงตัว แต่ปัจจุบันแม้หุ้นไทยจะปรับขึ้นต่อเนื่องมา 1-2 เดือน แต่การที่แสดงว่าที่ปรึกษาทางการเงินออกกรีนชูมารองรับไว้ ก็เท่าเป็นการแสดงให้เห็นว่า ภาวะตลาดหุ้นในปัจจุบันก็ยังไม่ได้อยู่ในช่วงที่จะสามารถการันตีว่าหุ้นไอพีโอจะกลับมาได้ 100 % หรือเปล่า???