ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกโรงชี้แจงกรณีที่มีกระแสข่าวลูกค้าธนาคารบางรายได้รับผลกระทบจากการแสดงยอดเงินในบัญชีติดลบ รวมถึงการปลดอายัดบัญชีที่ล่าช้า โดยยืนยันว่าได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและสั่งการให้ธนาคารพาณิชย์เร่งแก้ไขปัญหาพร้อมดูแลผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบทุกราย พร้อมทั้งกำชับให้ทุกธนาคารวางมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ประชาชนในการทำธุรกรรมทางการเงิน
นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบการชำระเงินและคุ้มครองผู้ใช้บริการทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ชี้แจงประเด็นที่มีกระแสข่าวลูกค้าได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การแสดงผลยอดเงินในบัญชีติดลบและการปลดอายัดบัญชีล่าช้านั้น
กรณียอดเงินในบัญชีติดลบ ธปท. ได้เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงจากธนาคารที่เกี่ยวข้องแล้ว พบว่าเกิดจาก 2 สาเหตุ คือ
(1) เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2568 มีการปรับปรุงข้อมูลรายการเคลื่อนไหวของเงินฝากช่วงสิ้นวันไม่ครบถ้วน ส่งผลให้บัญชีเงินฝากจำนวนหนึ่งมียอดเงินคงเหลือไม่เป็นปัจจุบัน ซึ่งธนาคารได้แก้ไขให้ถูกต้องเสร็จสิ้นแล้วตั้งแต่วันที่ 2 ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา โดย ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารดูแลลูกค้าที่ได้รับผลกระทบทุกราย รวมถึงได้เข้าตรวจสอบและติดตามให้ธนาคารมีมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาในลักษณะนี้อีกในอนาคต ตลอดจนกำชับให้ทุกธนาคารมีมาตรการเชิงป้องกันเช่นกัน
(2) เกิดจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งธนาคารให้อายัดเงินในบัญชีต้องสงสัย แต่เงินในบัญชีเหลือน้อยกว่าจำนวนเงินที่ตำรวจแจ้งให้อายัด ระบบจึงแสดงยอดเงินในบัญชีติดลบ ซึ่งแต่ละธนาคารมีแนวทางการแสดงข้อมูลที่แตกต่างกัน โดย ธปท. ได้สั่งการให้ธนาคารเร่งสร้างความเข้าใจกับลูกค้าให้ชัดเจนแล้ว
ธปท. เร่งปรับขั้นตอนอายัด–ปลดอายัดบัญชี ดูแลผู้เสียหายรวดเร็ว ลดผลกระทบลูกค้าปกติ
โดยสำหรับประเด็นการอายัดบัญชีต้องสงสัยเพื่อติดตามเงินกลับมาคืนผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ซึ่งอาจจะกระทบการทำธุรกรรมของประชาชนส่วนหนึ่ง นั้น ธปท. ธนาคารพาณิชย์ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องรับทราบปัญหาและอยู่ระหว่างเร่งปรับปรุงกระบวนการอายัดและการปลดอายัด ให้สามารถจัดการกับมิจฉาชีพและดูแลผู้เสียหายได้อย่างมีประสิทธิผล โดยไม่กระทบต่อผู้ใช้บริการปกติ รวมทั้งมีความรวดเร็วมากขึ้น โดยเฉพาะการปลดอายัดบัญชีกรณีผู้บริสุทธิ์
ทั้งนี้ หากประชาชนพบปัญหาในการใช้บริการทางการเงินและไม่ได้รับการแก้ไขอย่างทันท่วงทีจากสถาบันการเงิน สามารถติดต่อศูนย์รับเรื่องร้องเรียน ธปท. ที่หมายเลข 1213 โดย ธปท. จะเร่งให้สถาบันการเงินตรวจสอบและแก้ปัญหาอย่างเร็วที่สุด