SCGD เดินหน้ากลยุทธ์ปรับตัวเชิงรุก ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกผันผวน หนุน EBITDA on sales ไตรมาส 2/68 แตะระดับ 15.2% สูงสุดในรอบ 5 ไตรมาส จากการฟื้นตัวของตลาดเวียดนามและการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมเร่งลงทุนโซลาร์เซลล์และ Biomass ลดต้นทุนพลังงานและวัตถุดิบ สร้างรากฐานเติบโตยั่งยืน
นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทเอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD เปิดเผยข้อมูลในงาน SCGD Opportunity Day การนำเสนอข้อมูลธุรกิจและผลการดำเนินงาน ประจำไตรมาสที่ 2/2568 วันที่ 20 สิงหาคม 2568 ว่า “บริษัทฯ เดินหน้าขับเคลื่อนด้วยกลยุทธ์ปรับตัวเชิงรุก ท่ามกลางความผันผวนของเศรษฐกิจโลก โดยผลประกอบการไตรมาส 2/2568 ไม่รวมค่าใช้จ่ายปรับโครงสร้างธุรกิจ บริษัทมี EBITDA on sales อยู่ที่ 15.2% ซึ่งถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 5 ไตรมาส อย่างไรก็ดี หากไม่รวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน บริษัทสามารถเพิ่ม EBITDA และกำไรได้ 5% และ 19% จากไตรมาสก่อนหน้า ตามลำดับ จากการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการฟื้นตัวของตลาดเวียดนามที่ส่งผลให้ยอดขายเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการดำเนินมาตรการลดต้นทุนด้านพลังงาน วัตถุดิบ และเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งจะสร้างรากฐานสำคัญในการเสริมศักยภาพการแข่งขันในระยะยาว”
โดย SCGD ได้วางกลยุทธ์สำคัญ 4 ด้าน เพื่อผลักดันการเติบโต ได้แก่ 1) หนุนเวียดนามเป็นฐานส่งออกหลัก พร้อมเปิดตลาดส่งออกใหม่ในสิงคโปร์ เม็กซิโก และสาธารณรัฐเช็ก 2) ขยายกำลังการผลิตกระเบื้องเกรซพอร์ซเลนในเวียดนามเพิ่ม 5 ล้านตารางเมตรในปี 2568 หรือคิดเป็น 25% ของกำลังผลิตรวม 3) เพิ่มสัดส่วนสินค้านำเข้าในไทยที่มีราคาต้นทุนแข่งขันได้ โดยครึ่งปีแรกมียอดขายเพิ่มขึ้น 37% โดยเป็นสินค้ากลุ่มธุรกิจเกี่ยวเนื่องกว่า 58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4) ขยายพอร์ตสินค้ามูลค่าเพิ่มสูงจาก 34% ในปี 2567 เป็น 37% ในปี 2568
นอกจากนี้ ยังได้เร่งเพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไร ด้วยการลงทุนติดตั้งโซลาร์เซลล์ และ Biomass ลดต้นทุนพลังงานได้ 36 ล้านบาทต่อปี พร้อมลดต้นทุนวัตถุดิบ 30 ล้านบาท และปรับโครงสร้างธุรกิจลดเงินทุนหมุนเวียนได้ 140 ล้านบาทต่อปี รวมถึงขยายความร่วมมือกับพันธมิตรระดับโลก เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขัน
“SCGD มีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีกระแสเงินสดเพียงพอ และเพื่อแสดงความมั่นใจในการเติบโต จึงประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเพิ่มเป็น 0.15 บาทต่อหุ้น เพื่อดูแลผู้ถือหุ้นในช่วงเศรษฐกิจที่ยังมีความผันผวน”
มั่นใจครึ่งปีหลัง 68 เวียดนามฟื้นแรง หนุนขยายฐานลูกค้า
“และสำหรับแนวโน้มครึ่งปีหลัง 2568 ตลาดเวียดนามยังคงฟื้นตัวดีจากมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ และความต้องการภายในประเทศที่แข็งแกร่ง ขณะที่ในประเทศไทย แม้จะมีความท้าทายจากฤดูกาลหยุดยาว และภาระหนี้ครัวเรือนที่สูง บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นขยายฐานลูกค้าและเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว” นายนำพล กล่าวปิดท้าย