PIMO มั่นใจครึ่งปีหลังโตต่อ ประกาศปิดจ๊อบซื้อหุ้นคืน 24 ล้านหุ้น

PIMO เผยแนวโน้มธุรกิจครึ่งปีหลัง 2568 ยังสดใส หลังเดินหน้าปรับกลยุทธ์เชิงรุกรับมือเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ทั้งการลดต้นทุน รักษาราคา และขยายฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ พร้อมประกาศสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืน หลังซื้อครบตามเป้าร้อยละ 3.27 ของหุ้นทั้งหมด

นายวสันต์ อิทธิโรจนกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไพโอเนียร์ มอเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ PIMO ผู้ประกอบธุรกิจหลักผลิตมอเตอร์ไฟฟ้าเครื่องปรับอากาศ (Air Conditioning Motor) มอเตอร์ที่ใช้ในอุตสาหกรรมทั่วไป (Induction Motor) เครื่องสูบน้ำ ปั๊มหอยโข่ง มอเตอร์สำหรับสระว่ายน้ำ มอเตอร์สำหรับปั๊มบ้าน (Submersible Pump,Pool Spa Pump and Home Pump) เปิดเผยถึง แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในช่วงครึ่งปีหลัง 2568 คาดว่ามีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมา หลังจากที่บริษัทฯ ได้มุ่งมั่นสร้างความแข็งแกร่ง ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจล่วงหน้าและยังดำเนินการหาวิธีลดต้นทุน ปรับราคาให้ลูกค้าสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้อย่างต่อเนื่อง

โดยบริษัทยังคงการผลิตที่มีคุณภาพ ทันสมัยและมีการส่งมอบสินค้าตรงต่อเวลา ตลอดจนเดินหน้าหาลูกค้ารายใหม่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ

“ด้วยภาวะเศรษฐกิจโลกถดถอย จะเห็นได้จากช่วงต้นปีที่ผ่านมาราคาสินค้าและบริการมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงมีแนวโน้มจะทรงตัวไปอีกระยะ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทําให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นกว่าปีก่อนทำให้ยอดขายส่งออกที่ควรจะได้รับมีมูลค่าขายน้อยลง เราจึงได้ติดตามการเปลี่ยนแปลงของค่าเงินอย่างใกล้ชิดเพื่อนำมาวิเคราะห์ ตลอดจนนำไปวางแผน ปรับกลยุทธ์ทางธุรกิจล่วงหน้า เพื่อให้มีผลกระทบต่อบริษัทฯ น้อยที่สุด”

นายวสันต์ กล่าวต่อไปถึงในส่วนของการประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 ได้มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้น (Treasury Stock) เพื่อบริหารทางการเงินของบริษัทฯ ภายในวงเงินไม่เกิน 30,000,000 บาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 24,793,388 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 3.27 ของหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมด ของบริษัทฯ จำนวน 757,635,269 หุ้น โดยมีกำหนดระยะเวลาซื้อหุ้นคืน 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 28 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 27 สิงหาคม 2568 โดยบริษัทฯ ประสงค์จะซื้อหุ้นคืนผ่านระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์เท่านั้น

โดย ณ วันที่ 20 มิถุนายน 2568 บริษัทฯ ได้ดำเนินการซื้อหุ้นคืนรวมทั้งสิ้นจำนวน 24,793,300 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 3.27 ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 28,908,709 บาท ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอประกาศสิ้นสุดโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน