BLC เดินหน้าเชิงรุก ผนึกพันธมิตรขยายช่องทางขายยา พร้อมดันอุตสาหกรรมสุขภาพสู่สากล

BLC เปิดกลยุทธ์สร้างพันธมิตรธุรกิจในงาน Opportunity Day ไตรมาส 1/2568 โดยจับมือ BJC Healthcare เสริมแกร่งเครือข่ายร้านขายยา และเตรียมร่วมมือองค์การเภสัชกรรม (GPO) เพื่อเพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพของประชาชน พร้อมตั้งเป้ายกระดับอุตสาหกรรมยาไทยสู่มาตรฐานสากล พร้อมส่งสัญญาณบวกไตรมาส 2/2568 ผลงานเติบโตต่อเนื่อง มั่นใจรายได้ปีนี้ตามเป้า

ภก.สุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด (มหาชน) หรือ BLC ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาแผนปัจจุบัน ประเภทยาสามัญ และยาสามัญใหม่ ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผลิตภัณฑ์ยาสำหรับสัตว์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพครบวงจร ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร เครื่องสำอาง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ เปิดเผยในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ซึ่งถ่ายทอดผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยบริษัทฯ โชว์วิสัยทัศน์ขับเคลื่อนการเติบโตด้วยการให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจมาอย่างต่อเนื่อง โดยถือเป็นหนึ่งในแนวทางหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตและขยายขอบเขตทางธุรกิจ ทั้งการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับพันธมิตรเดิม และแสวงหาความร่วมมือใหม่ๆ ที่มีศักยภาพ เพิ่มการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพให้กับประชาชน และเป็นรากฐานสำคัญในการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งรวมไปถึงแผนการสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานสำคัญเพื่อยกระดับศักยภาพของอุตสาหกรรมยาไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน

BLC ผนึก BJC Healthcare รุกตลาดยา เปิดเกมรุก Co-Marketing เสริมแกร่งทุกช่องทาง

สำหรับความร่วมมือระหว่าง BLC กับ BJC Healthcare ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับ BLC ในช่องทางร้านขายยา รวมถึงเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพสู่ประชาชนในวงกว้างยิ่งขึ้น คาดว่าความร่วมมือนี้จะส่งผลเติบโตที่ชัดเจนขึ้นในปี 2569 ทั้งในด้านช่องทางการขายและการเติบโตของผลิตภัณฑ์ใหม่ โดยจะมีการสร้าง Synergy ระหว่างกันผ่านกลยุทธ์ Co-Marketing และ Co-development นอกจากนี้ BJC ซึ่งทำหน้าที่เป็นตัวแทนจำหน่ายยา จะช่วยเพิ่มคำสั่งซื้อยาของ BLC ในร้านขายยาและโรงพยาบาล โดยเฉพาะยาที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำแบรนดิ้งหลักของ BLC ทางด้าน BIG C Pure จะร่วมจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายและเป็นช่องทางประชาสัมพันธ์เพิ่มเติมสำหรับยาของ BLC โดยมีการนำยาใหม่ๆ เข้าไปสู่ร้าน Pure มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน

สำหรับแผนความร่วมมือ แบ่งออกเป็นระยะต่างๆ ดังนี้ 1) ระยะสั้น BLC จะนำผลิตภัณฑ์ในรูปแบบ Exclusive Package ไปวางจำหน่ายเพิ่มในช่องทางร้านขายยา Pure ในเครือ BJC นอกเหนือจากผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ 2) ระยะกลาง จะมีการร่วมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพในรูปแบบ OEM ภายใต้แบรนด์ของ BJC ซึ่งคาดว่าจะสามารถออกจำหน่ายได้ภายในไตรมาสที่ 4/2568 และ 3) ระยะยาว มุ่งเน้นการขยายตลาดไปยังต่างประเทศ โดยมีเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำด้านเวชภัณฑ์และสุขภาพระดับสากลร่วมกัน

BLC ปูพรมขยายช่องทางขายครบวงจร ดันแบรนด์ไทยสู่ตลาดโลก

นอกจากนี้ BLC ยังมีพันธมิตรจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งครอบคลุมโรงพยาบาลและร้านขายยากว่า 10,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งผลิตภัณฑ์ได้รับการยอมรับและมีการสั่งจ่ายโดยแพทย์และเภสัชกร บริษัทฯ ยังมีแผนขยายช่องทางจัดจำหน่ายไปยังกลุ่ม Modern Trade, Convenience Store และ E-commerce เพื่อขยายฐานลูกค้าในประเทศ และตลาดต่างประเทศ BLC มีการส่งออกผลิตภัณฑ์ไปยังกว่า 10 ประเทศ อาทิ ลาว กัมพูชา ฮ่องกง เวียดนาม อินโดนีเซีย พร้อมมองหาโอกาสใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการขยายตลาดในฮ่องกงผ่านกลยุทธ์ B2P (Business to Professional) ด้านการวิจัยและพัฒนา BLC Research Center ก็มีการทำงานร่วมกับหน่วยงานวิจัยทั้งภาครัฐ เอกชน และมหาวิทยาลัยในไทย

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BLC กล่าวเพิ่มเติมว่า ในอนาคตอันใกล้ BLC มีแผนที่จะร่วมมือกับองค์การเภสัชกรรม (GPO) เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยา เพิ่มโอกาสการเข้าถึงยาที่มีคุณภาพในราคาที่ถูกให้กับประชาชนไทย ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ ของ BLC โดยมุ่งหวังที่จะยกระดับอุตสาหกรรมยาของประเทศไทยให้ก้าวสู่มาตรฐานระดับสากล ด้วยจุดแข็งของ BLC ด้านการวิจัยและพัฒนา รวมถึงโรงงานผลิตที่ทันสมัยและมีมาตรฐานระดับสากล รวมทั้งทีมการตลาดที่แข็งแกร่ง การผนึกกำลังกับ GPO ซึ่งเป็นหน่วยงานภาครัฐที่สำคัญในอุตสาหกรรมยา จึงนับเป็นอีกก้าวในการเสริมสร้างศักยภาพและความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมยาภายในประเทศให้สามารถแข่งขันในระดับนานาชาติได้

“BLC มุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยกลยุทธ์ ‘P’ หรือ Partnership ที่เราถือเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ การสร้างพันธมิตรที่แข็งแกร่งไม่เพียงแต่ช่วยขยายช่องทางการเข้าถึงตลาด แต่ยังเป็นการร่วมกันยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมยาไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล ความร่วมมือกับ BJC Healthcare และแผนการทำงานร่วมกับ GPO เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของเราในการสร้าง Synergy ที่จะเกิดประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ทั้งการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงยาคุณภาพในราคาที่เหมาะสม และการสร้างนวัตกรรมผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนไทย เรามั่นใจว่ากลยุทธ์ Partnership นี้จะช่วยสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพให้กับประเทศไทย และเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาอุตสาหกรรมยาไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืนและสามารถแข่งขันในเวทีโลกได้” ภก.สุวิทย์ กล่าว