ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จสามารถปฏิวัติทั้งอุตสาหกรรมได้ และในระหว่างนั้น พวกเขายังสามารถสร้างกำไรมหาศาลให้กับผู้ถือหุ้นได้อีกด้วย
ลองนึกถึง Netflix ที่ปฏิวัติวงการเช่าวิดีโอด้วยบริการส่ง DVD ถึงผู้บริโภคโดยตรง ต่อมา บริษัทก็ได้ฆ่าตลาด DVD ไปเลยด้วยการเปิดตัวสตรีมมิ่งวิดีโอในปี 2550 และนับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา หุ้น Netflix ก็เพิ่มขึ้นถึง 13,000% ซึ่งนั่นหมายความว่า เงินลงทุนเบื้องต้นที่ 10,000 ดอลลาร์ จะกลายเป็นมากกว่า 1.3 ล้านดอลลาร์ ในตอนนี้
อย่างไรก็ตาม การหาหุ้นที่จะเป็น Disruptor แบบ Netflix นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่พวกเขาก็ยังมีอยู่และนี่คือหุ้น 2 ตัวที่เราคิดว่ามีศักยภาพพอที่จะเป็นหุ้นที่สามารถปฏิวัติวงการได้ในอนาคต
1️⃣ Duolingo
อันดับแรกคือ Duolingo (DUOL) ที่เพิ่มขึ้นถึง 241% ในปีที่แล้ว
Duolingo คือแพลตฟอร์มออนไลน์สำหรับการสอนภาษา แต่นี่ไม่ใช่แค่อีกแอปพลิเคชันสอนภาษาธรรมดา Duolingo ทำให้การเรียนภาษามีสีสัน โดยการผสมผสาน “Gamification” เข้าไปด้วย ซึ่งผู้ใช้งานจะต้องจัดการงานให้เสร็จเพื่อที่จะเพิ่มเลเวลและเรียนรู้บทเรียนต่างๆ ผ่านเรื่องราวที่แพลตฟอร์มนำเสนอ
รูปแบบเหล่านี้เป็นสิ่งที่น่าสนใจและถูกออกแบบมาให้ผู้ใช้งานอยากเรียนต่อ
แล้วผลลัพธ์? นักเรียนต่างใช้สิทธิ์ Power-up (เพิ่มพลัง) และ Mulligan (แก้คำตอบ) ฟรีจนหมด พอสิทธิ์หมด ก็มีตัวเลือกทั้งซื้อเพิ่มทีละครั้งหรือสมัครสมาชิกเพื่อปลดล็อกฟีเจอร์อีกมากมาย เช่น Do-overs (แก้คำตอบไม่จำกัด) เป็นต้น นี่จึงเป็นโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจซึ่งสามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างยอดเยี่ยม
ยอดสมาชิกจ่ายเงินของ Duolingo พุ่งจาก 1.1 ล้านคนในปี 2563 เป็นเกิน 5.8 ล้านคน ในไตรมาสล่าสุด (สิ้นเดือนกันยายน 2566) การเติบโตนี้สำคัญมาก เพราะรายได้ราว 77% ของ Duolingo มาจากสมาชิก
Duolingo จึงสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ใช้งานและเปลี่ยนพวกเขาให้เป็นสมาชิกได้สำเร็จ เพราะไม่มีใครที่สามารถรู้ได้หมดทุกภาษา ดังนั้น โอกาสการเติบโตของผู้ใช้จึงสามารถเติบโตได้ไม่มีที่สิ้นสุด
ด้วยเหตุผลทั้งหมดนี้ Duolingo จึงมีศักยภาพที่จะปฏิวัติวงการเรียนภาษาและดันราคาหุ้นให้พุ่งไปอีกหลายปี!
2️⃣ e.l.f. Beauty
หุ้นตัวที่สองคือหุ้นขนาดกลางอีกตัวหนึ่งที่เพลิดเพลินกับการเติบโตอย่างเหลือเชื่อ โดยหุ้นของ e.l.f. Beauty (ELF) เพิ่มขึ้น 162% ในปีที่ผ่านมา
สิ่งที่ทำให้ e.l.f. Beauty แตกต่างก็คือยอดขายที่เติบโตอย่างรวดเร็วในไตรมาสล่าสุด (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน) โดยรายได้ของบริษัทเติบโตอย่างโดดเด่นถึง 76% เมื่อเทียบเป็นรายปี
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ e.l.f. Beauty เติบโตอย่างก้าวกระโดดคือ “แบรนด์นี้้เป็นแบรนด์ที่โดนใจวัยรุ่น” (บริษัทติดอันดับ 1 ในผลสำรวจของ Taking Stock With Teens Survey ของ Piper Sandler ในฤดูใบไม้ร่วงปี 2565) และการร่วมมือกับ Target ที่ส่งผลให้บริษัทชิงส่วนแบ่งตลาดได้อย่างรวดเร็ว
จากข้อมูลของ Nielsen ระบุว่า “ภายในร้าน Target นั้น e.l.f. ขึ้นแท่นเป็นแบรนด์เครื่องสำอางสีขายดีอันดับ 1 และในตลาดรวมทั่วสหรัฐฯ e.l.f. ก็ครองอันดับ 3 ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 10.3%”
กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลของบริษัทคือเบื้องหลังของความสำเร็จในครั้งนี้ ซึ่งอาศัยการผสมผสานระหว่างโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย การรีวิวที่น่าเชื่อถือจากอินฟลูเอนเซอร์ และแคมเปญไวรัลบนแพลตฟอร์ม เช่น TikTok
e.l.f. Beauty จึงเป็นหุ้นที่มีศักยภาพมากพอที่จะพลิกฟื้นอุตสาหกรรมเครื่องสำอางมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์ได้และเป็นหุ้นอีกตัวที่นักลงทุนต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
📌สนใจที่จะลงทุนในหุ้น Duolingo และ e.l.f. Beauty?
แอปพลิเคชัน StockRadars PLUS คือคำตอบ
StockRadars PLUS เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการซื้อ-ขาย หุ้นและ ETF อเมริกา โดยสามารถซื้อ-ขายในรูปแบบ Fractional Share ได้
ดังนั้น นักลงทุนจึงสามารถเริ่มต้นลงทุนเพียง 1 ดอลลาร์ (หรือประมาณ 35 บาทเท่านั้น) เพื่อเป็นเจ้าของในหุ้นระดับโลกอย่าง Tesla, Netflix, Apple และหุ้นชั้นนำอีกมากมาย
นอกจากนี้ StockRadars PLUS จะพาผู้ใช้งานทุกคนไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ผ่านการทำความรู้จักกับหุ้นชั้นนำต่างๆ ในรูปแบบ Short Video และเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถแสดงความคิดเห็นในหุ้นแต่ละตัวได้
มาเดินทางไปสู่ตลาดอเมริกาด้วยกัน เปิดบัญชีเทรดผ่าน StockRadars PLUS ได้เลย! https://bit.ly/OpenAccount_StockRadarsPLUS
ดาวน์โหลด StockRadars PLUS ที่นี่ https://stockradarsplus.page.link/STRFBpagedownload
#StockRadarsPLUS #ทำเรื่องหุ้นเป็นเรื่องง่าย