Nvidia Corporation (NVDA) บริษัทเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ชั้นนำผู้ผลิตและจัดจำหน่าย Graphics Cards และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องสำหรับคอมพิวเตอร์และแพลตฟอร์มเกม นอกจากนี้ บริษัทยังมีการให้บริการในแพลตฟอร์มด้าน Deep Learning และ High Performance Computing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญในการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (AI) และงานวิจัยอื่นๆ ที่ต้องการประสิทธิภาพในการคำนวณอีกด้วย
บริษัทได้ออกมารายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 2 ในวันพุธที่ผ่านมา ต่อไปนี้คือไฮไลท์สำคัญ
💵ผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 2 ของ Nvidia
1️⃣ บริษัทรายงานรายได้ในไตรมาสที่ 2 ที่ 13.507 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 101% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ 11.186 พันล้านดอลลาร์
2️⃣ กำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 2.70 ดอลลาร์ต่อหุ้น ซึ่งสูงกว่าประมาณการของนักวิเคราะห์ที่ 2.082 ดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้นกว่า 148% จาก 1.09 ดอลลาร์ต่อหุ้นในไตรมาสก่อน
3️⃣ รายได้จาก Data Center อยู่ที่ 10.32 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 171% เมื่อเทียบเป็นรายปีและ 141% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส
4️⃣ รายได้จาก Gaming อยู่ที่ 2.49 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 22% เมื่อเทียบเป็นรายปีและ 11% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส
5️⃣ รายได้จาก Professional Visualization อยู่ที่ 379 ล้านดอลลาร์ ลดลง 24% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่เพิ่มขึ้น 28% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส
6️⃣ รายได้จาก Automotive อยู่ที่ 253 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบเป็นรายปี แต่ลดลง 15% เมื่อเทียบเป็นรายไตรมาส
7️⃣ อัตรากำไรขั้นต้นแบบ Non-GAAP อยู่ที่ 71.2% สูงกว่า 45.9% ของปีที่แล้วและ 66.8% ของไตรมาสก่อนหน้า
8️⃣ บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ 1,838 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 5% จากไตรมาสก่อนหน้า
9️⃣ บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงานที่7,776 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 155% จากไตรมาสก่อนหน้าและ 487% เมื่อเทียบเป็นรายปี
🔟 บริษัทได้ซื้อคืนหุ้นจำนวน 7.5 ล้านหุ้น มูลค่า 3.28 พันล้านดอลลาร์ และบริษัทได้ประกาศการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.4 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยเงินปันผลจะถูกจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นที่ลงทะเบียนสิทธิ์เป็นเจ้าของหุ้น ณ วันที่ 7 กันยายน และจะถูกจ่ายในวันที่ 28 กันยายน 2566
Colette Kress CFO ของ Nvidia กล่าวว่ารายได้จาก Data Center ที่สูงเป็นประวัติการณ์นั้นเกิดจากความต้องการชิปที่แข็งแกร่งจากผู้ให้บริการคลาวด์และบริษัทอินเทอร์เน็ตสำหรับผู้บริโภครายใหญ่ เนื่องจากการพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่และ AI นั้นต้องใช้ความสามารถของชิป Nvidia HGX ที่ใช้สถาปัตยกรรม Hopper และ Ampere GPU
ชิป AI ระดับสูง H100 ของ Nvidia เป็นชิปที่มีประสิทธิภาพสูงและเป็นสิ่งที่บริษัทต่างๆ กำลังต้องการ
รายงานจาก Financial Times ล่าสุดระบุว่า “ประเทศในตะวันออกกลางมีการสั่งซื้อชิปของบริษัทจำนวนมหาศาล”
Nvidia มีแนวโน้มที่จะจัดส่งชิป H100 จำนวน 550,000 ตัวในปี 2566 ในราคาตัวละ 40,000 ดอลลาร์ ซึ่งอาจจะสร้างรายได้ให้กับบริษัทถึง 22 พันล้านดอลลาร์
Jensen Huang CEO ของ Nvidia กล่าว “การแข่งขันกำลังดำเนินไปเพื่อนำ Generative AI มาใช้งาน”
“ยุคแห่งการประมวลผลรูปแบบใหม่ได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว บริษัทต่างๆ ทั่วโลกกำลังเปลี่ยนผ่านจากการใช้งานทั่วไปมาสู่ Accelerated Computing และ Generative AI” Huang กล่าวเสริม
แนวโน้มของผลการดำเนินงานในปี 2566
สำหรับไตรมาสที่ 3 บริษัทคาดว่ารายรับจะอยู่ที่ 16 พันล้านดอลลาร์ โดยการคาดการณ์จะอยู่ที่ 11.57 พันล้านดอลลาร์ และบริษัทกำหนดอัตรากำไรขั้นต้นแบบ Non-GAAP ที่ 72.5%
ไม่เพียงเท่านั้น The Street ได้คาดการณ์กำไรต่อหุ้นทั้งปี 2567 ไว้ที่ 7.57 ดอลลาร์ จากรายรับ 40.83 พันล้านดอลลาร์
Price Action: หุ้น NVDA เพิ่มขึ้น 6.57% มาอยู่ที่ 502.10 ดอลลาร์ ในช่วงการซื้อ/ขายนอกเวลาทำการเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
📌 สนใจที่จะเป็นเจ้าของหุ้น Nvidia?
แอปพลิเคชัน StockRadars PLUS คือคำตอบ
StockRadars PLUS เป็นแอปพลิเคชันที่ให้บริการซื้อ-ขาย หุ้นและ ETF อเมริกา โดยสามารถซื้อ-ขายในรูปแบบ Fractional Share ได้
ดังนั้น นักลงทุนจึงสามารถเริ่มต้นลงทุนเพียง 1 ดอลลาร์ (หรือประมาณ35 บาทเท่านั้น) เพื่อเป็นเจ้าของในหุ้นระดับโลกอย่าง Tesla, Netflix, Apple และหุ้นชั้นนำอีกมากมาย
นอกจากนี้ StockRadars PLUS จะพาผู้ใช้งานทุกคนไปเปิดประสบการณ์ใหม่ ผ่านการทำความรู้จักกับหุ้นชั้นนำต่างๆ ในรูปแบบ Short Video และเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถแสดงความคิดเห็นในหุ้นแต่ละตัวได้
มาเดินทางไปสู่ตลาดอเมริกาด้วยกัน เปิดบัญชีเทรดผ่าน StockRadars PLUS ได้เลย! https://bit.ly/OpenAccount_StockRadarsPLUS
ดาวน์โหลด StockRadars PLUS ที่นี่ https://stockradarsplus.page.link/STRFBpagedownload