บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC มีผลประกอบการที่แข็งแกร่งและเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยรายได้จากยอดขายรวมที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 15% ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นอัตราที่สูงเมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมซึ่งอยู่ที่ระดับ 6.6% ต่อปี โดยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีรายได้จากยอดขายรวมที่ 15,829 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นประมาณ 52.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเติบโตจากการขยายฐานลูกค้าใหม่และการเพิ่มขึ้นของจำนวนคำสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ใหม่ประกอบกับอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้นจากการที่บริษัทมีปริมาณการขายผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมที่เพิ่มขึ้นส่งผลให้ผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2565 มีกำไรสุทธิที่ 3,726 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นประมาณ 74.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทกล่าวว่า “ในฐานะบริษัทชั้นนำในการประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงของกลุ่มไทยยูเนี่ยน เราเป็นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 ของเอเชีย และอยู่ใน 10 อันดับแรกของโลกในปี 2564 เราจึงได้ทำการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้เพื่อการเดินหน้าสร้างการเติบโตอีกขั้นจากจุดยืนของการเป็น “ผู้นำระดับโลกด้านผลิตภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยงที่มองความต้องการของสัตว์เลี้ยงเป็นศูนย์กลางด้วยนวัตกรรมและหลักวิทยาศาสตร์เพื่อสุขภาพที่ดีของสัตว์เลี้ยง ครอบครัวและโลกของเรา” กับจุดแข็งที่ผสมผสานความโดดเด่นทั้งในด้านกลุ่มผลิตภัณฑ์อันหลากหลายและยากต่อการเลียนแบบ ตลอดจนด้านตลาดกระจายสินค้าที่กว้างขวางกว่า 45 ประเทศทั่วโลก”
ผู้คนให้ความสนใจใน IPO อย่างล้นหลาม
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ กล่าวถึงการ IPO ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ว่า “หลังจากที่บริษัทได้เสนอขายหุ้น IPO ของ ITC และเปิดให้นักลงทุนได้เข้ามาจองซื้อหุ้นในระหว่างวันที่ 22-25 พฤศจิกายน 2565 พบว่าได้รับความสนใจและเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศ จำนวนรวม 27 ราย แบ่งเป็นผู้ลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors ในประเทศไทย จำนวน 19 ราย และผู้ลงทุนสถาบันที่เป็น Cornerstone Investors ในต่างประเทศ อีกจำนวน 8 ราย คิดเป็นจำนวนหุ้นรวม 333.77 ล้านหุ้น หรือประมาณร้อยละ 50.57 ของจำนวนหุ้นที่เสนอขายในครั้งนี้ ทั้งยังได้รับความสนใจอย่างล้นหลามจากนักลงทุนที่เข้าร่วมงานไอพีโอโรดโชว์ในกรุงเทพและ 3 จังหวัดใหญ่ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น จังหวัดสงขลา และจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์รวมกว่า 1,000 คน”
จากผลตอบรับที่ดีเยี่ยมดังกล่าว ITC จึงได้กำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายของหุ้น ITC ที่ราคา 32 บาทต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าเสนอขายรวม 21,120 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้หุ้น ITC ถือเป็นหุ้นที่มีมูลค่าการเสนอขายสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มของตลาดหุ้นไทย โดยราคาดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ความสามารถในการสร้างผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของบริษัทแม้ในภาวะเศรษฐกิจและสถานการณ์การลงทุนที่มีความผันผวน โดยบริษัทเตรียมที่จะจดทะเบียนให้ซื้อ/ขายใน SET ในวันที่ 9 ธันวาคม 2022 นี้
นายพิชิตชัย วงศ์ปิยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท กล่าวเสริมว่า “บริษัทขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจใน ITC และมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการเติบโตไปอีกขั้นของบริษัท การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในครั้งนี้นั้นมีเป้าหมายเพื่อนำไปเป็นเงินทุนในการปรับปรุงโรงงานทั้งสองแห่งในจังหวัดสงขลาและสมุทรสาครให้ทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยระบบและเครื่องจักรอัตโนมัติเพื่อขยายกำลังและประสิทธิภาพการผลิต ขยายระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อสนับสนุนการผลิต พร้อมลงทุนในระบบคลังสินค้าและติดฉลากอัตโนมัติ รวมถึงต่อยอดศักยภาพด้านการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ชำระคืนเงินกู้ยืมและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนให้กับบริษัท ซึ่งจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับความสามารถในการดำเนินงานและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนตามเป้าหมายหลักของบริษัทต่อไป”
[SPECIAL] ⭐เปิดบัญชีเทรดผ่าน StockRadars กับหลักทรัพย์ กรุงศรี วันนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีขั้นต่ำ ง่าย อนุมัติเร็ว และ ยังได้ใช้ StockRadars “ฟรีทุกฟีเจอร์ !!” สมัครเลยที่ 👉🏻 https://bit.ly/33AyotD
#StockRadars #ทำเรื่องหุ้นเป็นเรื่องง่าย #StockRadarsNews
หรือติดตามเรา ในช่องทางอื่นๆ
Website: https://www.stockradars.news
Application: https://www.stockradars.co/getradars
LINE: @StockRadars https://line.me/R/ti/p/%40stockradars
Telegram: https://t.me/StockRadars
Blockdit: https://www.blockdit.com/stockradars