บริษัท เคอรี่ เอ็กซ์เพรส (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KEX ได้ออกมาเปิดเผยแผนสำหรับการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังว่าบริษัทจะยังคงเดินหน้าขยายสาขาใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มความสามารถในการให้บริการและความสะดวกในการเข้าถึงของลูกค้า ซึ่งการขยายสาขาใหม่นั้นจะเน้นไปที่การร่วมมือกับพันธมิตร โดยจะทำออกมาในรูปแบบการแชร์จุดบริการร่วมกับพาร์ตเนอร์ ซึ่งบริษัทคาดว่าจะได้ข้อสรุปอย่างน้อย 1 รายภายในช่วงปลายไตรมาสที่ 3 ของปี 2565 นี้
พันธมิตรทางการค้าคือสิ่งสำคัญ
การร่วมมือกับพันธมิตรจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพในการขยายช่องทางการให้บริการของบริษัทมากยิ่งขึ้น ก่อนหน้านี้บริษัทมีการร่วมมือกับ CJ Express, Exonmobile และ Lotus’s ซึ่งเป็นพันธมิตรที่ช่วยขยายช่องทางการให้บริการและทำให้บริษัทมีจุดให้บริการรับส่งสินค้าและพัสดุในปัจจุบันรวมกันกว่า 33,000 แห่ง ทั่วประเทศ ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทยังได้ร่วมมือกับ Betagro ในการเพิ่มบริการ Kerry Cool ที่เข้ามาเป็นทางเลือกใหม่ให้กับลูกค้าที่ต้องการขนส่งสินค้าซึ่งต้องมีการรักษาอุณหภูมิ ซึ่งทำให้บริษัทมีกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากนั้น บริษัทยังมีแผนการปิดสาขาเดิมที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ที่ทำให้มีค่าใช้จ่ายที่สูงและอยู่ในทำเลที่มีการสัญจรที่ลำบากเพิ่มเติม ซึ่งในช่วงเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม 2565 บริษัทได้มีการทยอยปิดสาขาที่ทำผลงานได้ไม่น่าพอใจไปจำนวนมาก หากว่ายังมีสาขาเดิมที่มีค่าใช้จ่ายสูงอยู่ บริษัทก็อาจจะมีการพิจารณาปิดเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปีนี้ เพื่อเป็นการบริหารต้นทุนให้มีประสิทธิภาพและตัดค่าใช้จ่ายของบริษัทที่ไม่จำเป็นออกไป
ต้องทำกำไร
นายประพัฒน์ เสียงจันทร์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัทระบุว่า “ในช่วงที่เหลือของปีนี้ เรายังคงให้ความสำคัญในเรื่องของการปรับกลยุทธ์และการลดต้นทุน โดยจะพิจารณาเส้นทางการขนส่งให้สั้นลงและจัดระเบียบศูนย์บริการและจุดคัดแยกพัสดุให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อลดต้นทุนทางธุรกิจให้ได้มากที่สุด ซึ่งเราได้มีการทยอยปรับขึ้นค่าขนส่งและค่าบริการต่างๆ ให้สอดคล้องกับต้นทุนที่เพิ่มมากขึ้น โดยมีการเพิ่มราคาขึ้นตั้งแต่ 1 บาท ไปจนถึง 3-4 บาท หรือบางพื้นที่อาจไม่ขึ้นเลย การเพิ่มราคาในครั้งนี้จะช่วยลดภาระจากต้นทุนค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2565 ทำให้ทดแทนในส่วนของต้นทุนค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้นได้บ้าง”
นายประพัฒน์ กล่าวเสริม “บริษัทคาดว่าจะเริ่มผลของการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพและคาดว่าจะเกิดความสมดุลระหว่างราคาในการให้บริการและต้นทุนในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2565 ซึ่งจะทำให้เราเข้าสู่จุดคุ้มทุนและมีโอกาสพลิกกลับมามีกำไรได้ในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้”
ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทยังคงมั่นใจว่าจะสามารถรักษาการเติบโตของปริมาณการจัดส่งพัสดุให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 30% ต่อปีได้ เนื่องจากในช่วงครึ่งปีแรก บริษัทสามารถสร้างปริมาณการจัดส่งพัสดุได้สูงถึง 35.7% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
จากปัจจัยดังกล่าวทำให้บริษัทคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นในช่วงสองไตรมาสสุดท้ายของปีจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและคาดว่าภายในสิ้นปีนี้บริษัทจะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ในที่สุด
KEX ติดสัญญาณ Radars อะไรบ้าง ไปดูกันครับ
- EPS Regression = กำไรต่อหุ้นของ KEX ในไตรมาสปัจจุบันน้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 40% ขึ้นไป
- Underlying of Call DW = KEX เป็นหุ้นที่มีสามารถทำการซื้อ/ขาย DW ประเภท Call
- NPM Above Avg = KEX เป็นหุ้นที่มีผลตอบแทนต่อยอดขายมากกว่าค่าเฉลี่ยของ Sector
[SPECIAL] ⭐เปิดบัญชีเทรดผ่าน StockRadars กับหลักทรัพย์ กรุงศรี วันนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีขั้นต่ำ ง่าย อนุมัติเร็ว และ ยังได้ใช้ StockRadars “ฟรีทุกฟีเจอร์ !!” สมัครเลยที่ 👉🏻 https://bit.ly/33AyotD
#StockRadars #ทำเรื่องหุ้นเป็นเรื่องง่าย #StockRadarsNews
หรือติดตามเรา ในช่องทางอื่นๆ
Website: https://www.stockradars.news
Application: https://www.stockradars.co/getradars
LINE: @StockRadars https://line.me/R/ti/p/%40stockradars
Telegram: https://t.me/StockRadars
Blockdit: https://www.blockdit.com/stockradars
