ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรับมาตรการกำกับหุ้นเข้มขึ้น ภากรย้ำจะช่วยลดความเสี่ยง

📌 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศยกระดับมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ เพิ่มประสิทธิภาพการกำกับดูแล ย้ำช่วยลดความเสี่ยงผู้ลงทุน

โดยเป็นการปรับระดับของมาตรการให้เข้มขึ้นจากเดิม และเพิ่มมาตรการการหยุดพักการซื้อขาย 1 วันทำการเป็นมาตรการในระดับสูงสุด ซึ่งจะมีผลใช้บังคับ 4 เมษายน 2565 เป็นต้นไป

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ในปี 2565 ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับปรุงมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์เพื่อยกระดับ และเพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแลการซื้อขายหลักทรัพย์ ให้เหมาะสมและเพื่อที่จะป้องกันความเสี่ยง ให้กับผู้ลงทุนได้อย่างทันท่วงทีมากขึ้น ด้วยการยกระดับของมาตรการให้เข้มขึ้นจากเดิม และเพิ่มมาตรการการหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว 1 วันทำการเป็นมาตรการในระดับสูงสุด ซึ่งสอดคล้องกับมาตรการของตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ โดยมาตรการดังกล่าว ได้ผ่านการรับฟังความคิดเห็นจากผู้เกี่ยวข้อง และผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการ ก.ล.ต. แล้ว

สำหรับมาตรการกำกับการซื้อขายหลักทรัพย์ใหม่นี้ จะมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2565 เป็นต้นไป โดยมีรายละเอียดดังนี้

มาตรการระดับ 1 (เดิม) : ให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ (บัญชี cash balance)

มาตรการระดับ 1 (ใหม่) : ให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ (บัญชี cash balance) และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย

มาตรการระดับ 2 (เดิม) : ให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย

มาตรการระดับ 2 (ใหม่) : ให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และห้าม Net Settlement

มาตรการระดับ 3 (เดิม) : ให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และห้าม Net Settlement

มาตรการระดับ 3 (ใหม่) : ห้ามซื้อขายชั่วคราว 1 วันทำการ (เฉพาะวันแรก) เมื่ออนุญาตให้ซื้อขาย ให้ซื้อด้วยการวางเงินสด 100% ก่อนซื้อ และห้ามนำหลักทรัพย์ที่กำหนดมาคำนวณเป็นวงเงินซื้อขาย และห้าม Net Settlemen

[SPECIAL] ⭐️ เปิดบัญชีเทรดผ่าน StockRadars กับหลักทรัพย์ กรุงศรี วันนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีขั้นต่ำ ง่าย อนุมัติเร็ว และ ยังได้ใช้ StockRadars “ฟรีทุกฟีเจอร์ !!” สมัครเลยที่ 👉🏻 https://bit.ly/33AyotD