บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP บรรลุผลสำเร็จเข้าถือหุ้นร้อยละ 85 ใน Deltalab,S.L (Deltalab) ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในประเทศสเปน ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ (Medical Supplies and Labware) โดยเข้าลงทุนผ่านบริษัทอินเตอร์เนชั่นแนล เฮลธ์แคร์ แพคเกจจิ้ง จำกัด ที่ SCGP ถือหุ้นทั้งหมด ใช้งบลงทุนทั้งสิ้น 84.9 ล้านยูโร (3,270 ล้านบาท) จะเริ่มรับรู้รายได้ในงบการเงินรวมของบริษัทตั้งแต่เดือนธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
สำหรับ Deltalab เป็นที่รู้จักในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและ จัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูงในยุโรป โดยมีผลิตภัณฑ์ทั้งสิ้นกว่า 15,000 หน่วยสินค้า มีกำลังการผลิตรวม 250 ล้านชิ้นต่อปี และส่งออกสินค้าครอบคลุมตลาดส่งออก 125 ประเทศทั่วโลก นับจากวันที่ 1 ตุลาคม 2563-30 กันยายน 2564 Deltalab มีรายได้รวม 84.3 ล้านยูโร (ประมาณ 3,245 ล้านบาท) มีกำไรสุทธิหลังหักภาษีประมาณ 19.3 ล้านยูโร (ประมาณ 740 ล้านบาท) และมีสินทรัพย์อยู่ที่ 44.7 ล้านยูโร (ประมาณ 1,720 ล้านบาท)
นายวิชาญ จิตร์ภักดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SCGP กล่าวว่า การลงทุนใน Deltalab ครั้งนี้จะช่วยยกระดับการขยายฐานลูกค้าในแถบยุโรป ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และภูมิภาคอื่นๆ ขยายพอร์ตสินค้าของ SCGP ให้มีความหลากหลายยิ่งขึ้น โดยต่อยอดจากความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและนำเสนอบรรจุภัณฑ์แบบครบวงจร เพิ่มขีดความสามารถการให้บริการสู่ระดับโลก รวมถึงผนึกความสามารถทางธุรกิจโดยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ซึ่งกันและกัน เพื่อร่วมมือกันพัฒนาโซลูชันและขยายตลาดใหม่ๆ
ทางบล.กรุงศรีมองว่า นี่เป็นก้าวแรกของ SCGP ในการขยายไปยุโรปและการแพทย์ SCGP วางแผนที่จะขยายการผลิตมายังเอเชีย อุปกรณ์การแพทย์คาดว่าจะมีรายได้เติบโต 6-8% CAGR ใน 2020-25 และ เอเชียแปซิฟิกมี CAGR สูงท่ีสุดที่ 7-9% คิดเป็น 43% ของอุปสงค์ทั่วโลก ตามด้วย ยุโรป (23%) และภูมิภาคอื่น (34%) SCGP จะเริ่มรวมงบ Deltalab ต้ังแต่ธ.ค. 2021
โดยบล.กรุงศรีมองว่าส่วนต่างกระดาษ Testliner ฟื้นเป็น US$225/t ในเดือน ต.ค.-พ.ย. จากระดับต่ำสุดรอบหลายปีที่ US$165/t ใน 3Q ราคา Testliner ฟื้นตัวเป็น US$520/t จาก US$475/t ใน 3Q ส่วนต้นทุนเยื่อ AOCC ลดเป็น US$295 จาก US$310 ใน 3Q ราคา Testliner ฟื้นตัวจากอุปสงค์ที่สูงขึ้นและเยื่อ AOCC ลดลงเป็นผลจากอัตรา collection rate ทีสูงขึ้น SCGP ใช้ AOCC 55% ในประเทศและ 45% นําเข้า SCGP ใช้กระดาษบรรจุในบริษัท 20% และอีก 80% ขายให้บริษัทอื่น อย่างไรก็ตาม ราคาไฟเบอร์สั่นลดลงเป็น US$550 จาก US$640 ใน 3Q แต่ยังสูงเมื่อเทียบกับ US$450-480 ปี 2020 SCGP ขายไฟเบอร์สั้น 25% ให้บริษัทอื่น ส่วนต่าง testliner สูงขึ้นมีผลมากกว่าราคาไฟเบอร์สั่นลดลง คาดกําไรจะแข็งแกร่งขึ้น QoQ ใน 4Q โดยบล.กรุงศรีรวม Deltalab เข้าในโมเดล ซึ่งเพิ่มคาดการณ์กําไรปี FY22/23 ขึ้น 3%
โดย SCGP ได้ติดสัญญาณ Radars “Latest Quarter Revenue Increasing” หุ้นที่ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดมีรายได้เพิ่มขึ้น และ “Latest Quarter Equity Increasing” หรือ หุ้นที่ผลประกอบการไตรมาสล่าสุดมีส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น
[เพิ่มเติม] ⭐เปิดบัญชีเทรดผ่าน StockRadars กับหลักทรัพย์ กรุงศรี วันนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีขั้นต่ำ ง่าย อนุมัติเร็ว และ ยังได้ใช้ StockRadars “ฟรีทุกฟีเจอร์ !!” สมัครเลยที่ 👉🏻 https://bit.ly/33AyotD
#StockRadars #ทำเรื่องหุ้นเป็นเรื่องง่าย #StockRadarsNews
หรือติดตามเรา ในช่องทางอื่นๆ
Website: https://www.stockradars.news
Application: https://www.stockradars.co/getradars
LINE: @StockRadars https://line.me/R/ti/p/%40stockradars
Telegram: https://t.me/StockRadarsBlockdit: https://www.blockdit.com/stockradars