STGT เผยกำไรไตรมาสนี้ สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากดำเนินกิจการมา 31 ปี Q2/63 กำไรสุทธิที่ 1,056.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150.5% QoQ และ 487.7% YoY
บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ จำกัด (มหาชน) หรือ STGT ได้เปิดเผยผลดำเนินงานไตรมาส 2/2563 ระบุความต้องการถุงมือยางยังคงเติบโตต่อเนื่องทั่วโลก ทำให้รายได้และกำไรในไตรมาสนี้ สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยรายได้ที่ 4,856.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.2% QoQ เพิ่มขึ้น 70.5% YoY ส่วนกำไรสุทธิที่ 1,056.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150.5% QoQ และเพิ่มขึ้น 487.7% YoY
ซึ่งบริษัทได้เพิ่มกำลังผลิตถุงมือยางเต็มความสามารถ โดยอัตรากำลังการผลิตต่อกำลังการผลิตเครื่องจักรสูงถึง 95%
สัดส่วนการผลิตถุงมือยางธรรมชาติ (NR) และถุงมือยางสังเคราะห์ (NBR) ในสัดส่วน 65:35 และจะยังคงรักษาอัตรากำลังการผลิตและคงสัดส่วนผลิตภัณฑ์ดังกล่าว จนกว่าจะมีการรับรู้กำลังการผลิต NBR ใหม่จากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้น จากโรงงานสาขาสุราษฎร์ธานี ซึ่งจะเริ่มกำลังการผลิตในช่วงไตรมาส 1/2564 เป็นต้นไป
ทั้งนี้ บริษัทมีต้นทุนทางการเงินคงที่ และภาษีจ่ายที่เพิ่มขึ้นจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น แต่อัตรากำไรหลังภาษีเงินได้ (PBT) เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจาก 11.3% ในไตรมาส 1/2663 เป็น 21.8% ในไตรมาส 2/2563
และบริษัทคาดว่า ต้นทุนทางการเงินจะลดลงในไตรมาสถัดไป เนื่องจากได้มีการชำระเงินกู้ระยะยาวบางส่วนจำนวน 2,093 ล้านบาท ในสิ้นไตรมาส 2/2563 ซึ่งคิดเป็น 32.5% ของหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยในไตรมาสดังกล่าว (ก่อนชำระคืนเงินกู้ก่อนกำหนด)
You must be logged in to post a comment.