บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC ได้เปิดเผยผลดำเนินงานไตรมาสที่ 2 ปี 2563 กำไรสุทธิ 1,149 ล้านบาท ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น เข้าสู่ระดับใกล้ปกติแล้ว
โดยระบุถึงการระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบชัดเจนเมื่อรัฐบาลเริ่มใช้ พรก.ฉุกเฉิน ตั้งแต่ 26 มีนาคม 2563 เป็นต้นมา ซึ่งในขณะนั้น มีผลต่อปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของบริษัทที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่เมื่อเริ่มผ่อนคลาย ปริมาณการใช้ผ่านบัตรก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ
ขณะที่พอร์ตลูกหนี้ของบริษัทยังคงขยายตัวเพิ่มขึ้นที่ 8.3% YoY และยังคงความสามารถในการหารายได้และการสร้างผลกำไร พร้อมกับที่บริษัทมีการควบคุมค่าใช้จ่ายทางการเงินอย่างดี ระบุรายได้หนี้สูญได้รับคืนอยู่ในระดับที่น่าพอใจ
👉🏻 โดยสรุปกำไรสุทธิ Q2/2563 ภายใต้มาตรฐาน TFRS9 จำนวน 1,149 ล้านบาท และงวดครึ่งปีเท่ากับ 2,790 ล้านบาท
👉🏻 รายได้ดอกเบี้ยรวม (รวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) ไตรมาส 2 และครึ่งปี เพิ่มขึ้น 9.3% และ 10% YoY ตามลำดับ ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียม (ไม่รวมค่าธรรมเนียมในการใช้วงเงิน) ลดลงที่ 20.4% และ 12.3% YoY
👉🏻 สำหรับงวดครึ่งปี บริษัทมีสัดส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวม (Cost to Income Ratio) ลดลงจาก 33.8% เหลือ 31% YoY เนื่องจากลดกิจกรรมทางการตลาดลง
👉🏻 สินเชื่อรวมขยายตัวเพิ่มขึ้น 8.3% หรือ 83,486 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นลูกหนี้บัตรเครดิตรวม 53,242 ล้านบาท และลูกหนี้สินเชื่อบุคคลรวม 30,244 ล้านบาท
ซึ่งในรอบ 5 เดือนปี 2563 ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของบริษัทลดลงที่ 10.7% ในขณะที่อุตสาหกรรมติดลบเช่นกันที่ 14.2% และหากเปรียบเทียบอัตราการเปลี่ยนแปลงรายเดือน พบว่า
👉🏻 อุตสาหกรรมในเดือนเมษายนและพฤษภาคม มีอัตราลดลงที่ 40.1% และ 27.6%
👉🏻 ในขณะที่ เคทีซีมีปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรในเดือนเมษายนและพฤษภาคม ลดลงในอัตราน้อยกว่าอุตสาหกรรม ที่ 36% และ 22.4% ตามลำดับ
จะเห็นว่าลดลงเรื่อยๆ และในเดือนมิถุนายนอยู่ที่ 4.5% ซึ่งเป็นผลมาจากการผ่อนคลายของภาครัฐ ผู้บริโภคเริ่มปรับตัวและกลับมาใช้จ่ายผ่านบัตรเพิ่มขึ้น เข้าสู่ระดับใกล้ปกติ
You must be logged in to post a comment.