ศรีตรังโกลฟส์ ผู้ผลิตถุงมือยางรายใหญ่ของไทย เริ่มซื้อขายในตลาด 2 ก.ค. 63 IPO 48,578.52 ล้านบาท ใช้ชื่อย่อ STGT
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคและบริโภค หมวดธุรกิจของใช้ส่วนตัวและเวชภัณฑ์ ในวันที่ 2 กรกฎาคม 2563
STGT ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายถุงมือยางสำหรับใช้ทางการแพทย์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ มีทั้งถุงมือธรรมชาติและถุงมือยางไนไตรล์ โดยบริษัทมีกำลังผลิตรวมประมาณ 32,619 ล้านชิ้นต่อปี และเป็นบริษัทของ บมจ. ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี หรือ STA ซึ่งได้มีการปรับโครงสร้างโดยการควบรวมบริษัทในกลุ่มธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายถุงมือยาง เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ
ทั้งนี้ STGT ได้เปิดเผยผลดำเนินงานไตรมาสที่ 1/2563 ระบุรายได้รวม 3,859.17 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 769.92 ล้านบาท หรือ +25.8% YoY กำไรสุทธิ 421.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 273.33 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ 11.2% จากไตรมาสเดียวกันในปีก่อนที่ 5% โดยสาเหตุหลักมาจากการขายถุงมือยางที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทได้ประโยชน์จากการประหยัดต่อขนาด (Economy of Scale)
รวมถึง สายการผลิตใหม่ภายใต้โครงการขยายโรงงานสาขาหาดใหญ่ และโรงงานสาขาตรัง มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย ส่งผลให้มีประสิทธิภาพในการผลิตที่สูงขึ้น ซึ่งนั่นสามารถลดต้นทุนของบริษัทได้
นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ STGT เชื่อว่าบริษัทเป็นผู้ผลิตถุงมือยางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและใหญ่ลำดับต้นๆ ของโลก ซึ่งการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในครั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ พร้อมสร้างความแข็งแกร่งด้านเงินทุน และต่อยอดโอกาสในการขยายธุรกิจ โดยบริษัทมีแผนที่จะนำเงินระดมทุนไปขยายและปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต รวมถึงระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ
โดยบริษัทมีเป้าหมาย ที่จะเพิ่มกำลังการผลิตให้ได้มากกว่า 50,000 ล้านชิ้นต่อปี ในปี 2567 และ 100,000 ล้านชิ้นต่อปี ในปี 2675 เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
You must be logged in to post a comment.