HomeOn Radarsธนาคารกสิกรไทยประเมินทิศทางตลาดตราสารหนี้ยังผันผวน

ธนาคารกสิกรไทยประเมินทิศทางตลาดตราสารหนี้ยังผันผวน

ธนาคารกสิกรไทยประเมินทิศทางตลาดตราสารหนี้ยังมีความผันผวนจากผลกระทบของโควิด-19 ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ เอกชนออกหุ้นกู้ลดลงถึง 41% แต่คาดว่าปีนี้เอกชนออกหุ้นกู้ใหม่ 9 แสนล้านบาท พร้อมตั้งเป้ารักษาแชมป์ผู้จัดจำหน่ายด้วยส่วนแบ่งตลาด 20%

นายธิติ ตันติกุลานันท์ ผู้บริหารสายงานธุรกิจตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า การระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินในวงกว้าง แม้กระทั่งตลาดตราสารหนี้เองก็ได้รับผลกระทบในเชิงลบในช่วงที่ผ่านมา

เริ่มจากการที่ราคาตราสารหนี้ปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลกระทบถึงมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) ของกองทุน และทำให้ผู้ลงทุนหรือผู้ถือหน่วยลงทุนเกิดความไม่มั่นใจ และเร่งขายหน่วยลงทุนอย่างหนักในช่วงกลางเดือนมีนาคม 2563 ส่งผลให้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ต้องรีบขายตราสารหนี้ที่ตนถือครองอยู่ในตลาดรอง และยอมขายในราคาต่ำ เพื่อนำเงินที่ได้จากการขายมาคืนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ทั้งยังลดการลงทุนตราสารหนี้ออกใหม่เพื่อรักษาสภาพคล่อง ซึ่งทำให้ความต้องการลงทุนชะลอตัวไปด้วย

ในไตรมาส 1 ปี 2563 มูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ของกองทุนรวมของไทยทั้งระบบ ลดลงประมาณ 8 แสนล้านบาท หรือ 15.30% จาก 5.4 ล้านล้านบาท ณ สิ้นปี 2562 มาอยู่ที่ 4.6 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นระดับที่ใกล้เคียงกับ NAV เมื่อ 4 ปีที่แล้วหรือเมื่อปี 2559 โดยในเดือนมีนาคมเพียงเดือนเดียว NAV ลดไปถึง 7 แสนล้านบาท เฉพาะกองทุนรวมตราสารหนี้มีเงินไหลออกสูงถึง 4.5 แสนล้านบาท

ในปัจจุบัน แรงเทขายกองทุนชะลอลงแล้ว

และตลาดเริ่มกลับมาสู่ภาวะปกติมากขึ้น หลังจากที่ทางการทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นฝั่งรัฐบาลหรือธนาคารกลางที่ออกมาตรการทั้งทางการคลังและการเงินเพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบ

สำหรับในปี 2563 นี้ ธนาคารกสิกรไทยยังคาดว่าจะมีหุ้นกู้ระยะยาวภาคเอกชนออกใหม่จำนวนประมาณ 9 แสนล้านบาท ลดลงจากระดับเกินกว่า 1 ล้านล้านบาทในปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการลดลงครั้งแรกตั้งแต่ปี 2558 โดยสาเหตุหลักมาจากแผนการลงทุนของผู้ออกหุ้นกู้ที่เลื่อนหรือยกเลิกไป ทำให้การระดมทุนผ่านตราสารหนี้ชะลอออกไปด้วย ขณะที่ผู้ออกหุ้นกู้ในบางอุตสาหกรรม อาทิ ภาคการท่องเที่ยว ภาคอสังหาริมทรัพย์ อาจยังไม่ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุน

และนอกจากนี้ ธนาคารยังตั้งเป้าที่จะเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ที่มียอดจัดจำหน่ายสูงสุด และมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่ประมาณ 20% ของมูลค่าการเสนอขายทั้งตลาด อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงจับตามองและประเมินผลกระทบจากโควิด-19 ต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ ผู้ออกหุ้นกู้ และตลาดตราสารหนี้อย่างใกล้ชิด