HomeOn RadarsHMPRO รายงานงบงวด Q1/63 แจงบริหารห่วงโซ่อุปทานและสภาพคล่องรับมือโควิด-19

HMPRO รายงานงบงวด Q1/63 แจงบริหารห่วงโซ่อุปทานและสภาพคล่องรับมือโควิด-19

บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) ได้สรุปผลดำเนินงาน งวดไตรมาส 1 ปี 2563 รายได้รวม 14,545.59 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,266.52 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 6.14% และ 10.80% ตามลำดับ โดยกำไรต่อหุ้นอยู่ที่หุ้นละ 0.10 บาท

ระบุนับตั้งแต่สถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 เกิดขึ้น บริษัทได้บริหารความเสี่ยงตั้งแต่ช่วงต้นของการแพร่ระบาด

โดยบริษัทฯ ได้แต่งตั้งคณะกรรมการกลางพิเศษ เพื่อเฝ้าระวังและบริหารความเสี่ยง ตลอดจนคณะกรรมการย่อยสำหรับแต่ละธุรกิจ โดยคณะกรรมการเหล่านี้ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และประเมินผลกระทบต่อธุรกิจในด้านต่างๆ รวมถึงควบคุมดูแลให้การดำเนินงานสอดคล้องกับมาตรการรักษาสุขภาพ และความปลอดภัยที่มีประกาศเพิ่มเติมอยู่เสมอ

มีการบริหารห่วงโซ่อุปทานและคลังสินค้ารับมือโควิด-19

โดยโฮมโปรมีส่วนแบ่งของยอดขายสินค้าที่จัดหาจากต่างประเทศทั้งหมดประมาณ 10% โดยสัดส่วนที่มาจากประเทศจีนประมาณ 6-8% เท่านั้น ซึ่งบริษัทฯ ได้สำรองสินค้าในส่วนนี้ก่อนหน้าช่วงวันหยุดเทศกาลตรุษจีนตามปกติ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก จากการปิดทำการของคู่ค้าในสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19

นอกจากนั้น ณ ปัจจุบัน คู่ค้าของบริษัทฯ บางส่วนได้กลับมาเริ่มดำเนินการตามปกติแล้ว

ความเสี่ยงด้านความพร้อมของสินค้าจึงถือว่าอยู่ในระดับที่ควบคุมได้

โดยทางบริษัทฯ มีวงเงินสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง และมีวงเงินกู้ประเภทตั๋วแลกเงินระยะสั้น ซึ่งบริษัทได้เบิกถอนเงินกู้ตามระยะเวลาใช้คืนภายใน 1,2,3 และ 6 เดือน หรือแล้วแต่ระยะเวลาที่ตกลงกัน

เพื่อรักษาสภาพคล่องในระหว่างที่สาขาปิดดำเนินการบางส่วน บริษัทฯ ยืนยันว่า ยังสามารถรักษาความสามารถในการจ่ายดอกเบี้ย และปฏิบัติตามเงื่อนไขตามสัญญากู้ทุกประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสามารถในการรักษาสัดส่วนหนี้สินต่อทุน

ทั้งนี้ บริษัทได้ประเมินผลกระทบเชิงลบ ที่อาจเกิดขึ้นตามความรุนแรงในระดับต่างๆ และดำเนินมาตรการเพื่อรักษาขีดความสามารถในการทำกำไร อาทิ การควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการต่างๆ เช่น ค่าใช้จ่ายทางการตลาด ค่าสาธารณูปโภค ค่าจ้างล่วงเวลา ค่าตอบแทนที่ขึ้นอยู่กับผลงาน (Commission) และค่าใช้จ่ายพนักงานภายนอก (Outsource) เป็นต้น

การบริหารคลังสินค้าให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนชะลอการลงทุนที่ไม่จำเป็นเร่งด่วนออกไปก่อน รวมถึงบริหารกระแสเงินสด เงินทุนหมุนเวียน และสภาพคล่องทางการเงินอย่างรัดกุม ส่งผลให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นยังคงเป็นไปตามแผนที่วางไว้