“หิวเมื่อไหร่ก็แวะมา 7-11” คำคุ้นหู ที่ได้ยินจนชิน แต่ในช่วงนี้กลับไม่เป็นเหมือนอย่างเคย

ด้วยสถานการณ์ตอนนี้ ทำให้ทั่วประเทศได้มีการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กันอย่างถ้วนทั่ว

ทั้งห้างสรรพสินค้า งานแต่ง งานบวช ต้องถูกระงับ จนมาถึงวันนี้ ได้มีมาตรการจำกัดเวลาซื้อของในร้านสะดวกซื้อแล้ว

นั่นทำให้ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ถูกกระทบไปแบบเต็มๆ

โดยปกติ CPALL ดำเนินธุรกิจร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven และให้สิทธิแก่ผู้ค้าปลีกรายอื่นในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทย และลงทุนในธุรกิจสนับสนุนธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อด้วย เช่น ผลิตและจำหน่ายอาหารสำเร็จรูปและเบเกอรี่ ตัวแทนรับชำระเงินค่าสินค้าและบริการ รวมถึงการลงทุนในธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ “แม็คโคร”

ซึ่งสำหรับ CPALL นั้น ระดมทุนเข้าจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 14 ต.ค. 2546 หรือกว่า 16 ปีมาแล้ว

จากสาขาแรก เปิดร้านอยู่ที่ซอยพัฒน์พงษ์ กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2533

จนตอนนี้ 7-11 ขยายตลาดมากถึง 11,712 สาขา ทั่วประเทศ (ข้อมูลของปี พ.ศ. 2562)

โดยรายได้ที่บริษัททำได้ในแต่ละปี เป็นดังนี้

รายได้ปี 2558: 405,893.24 ล้านบาท
รายได้ปี 2559: 451,938.85 ล้านบาท
รายได้ปี 2560: 489,403.25 ล้านบาท
รายได้ปี 2561: 527,859.75 ล้านบาท
รายได้ปี 2562: 571,110.06 ล้านบาท

ส่วนกำไรสุทธิ ในปีล่าสุด (พ.ศ. 2562) ทำได้ถึง 22,343.08 ล้านบาท

แต่ปีนี้ ด้วยทั่วโลกต้องเจอกับวิกฤตโรคระบาดโควิด-19 ทำให้การบริโภคไม่อาจคาดเดาได้

แม้ร้านสะดวกซื้อ จะถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ เพราะผู้คนต่างพากันกักตุนอาหารและของใช้จำเป็น

จนนักลงทุนหลายคน คิดว่าจะเป็นผลดีต่อหุ้นร้านสะดวกซื้อเช่น 7-11

แต่ตอนนี้ก็พูดแบบนั้นไม่ได้แล้ว เพราะมีมาตรการเข้มงวดเกิดขึ้น ดังเช่นร้านสะดวกซื้อไม่สามารถเปิดขายได้ตลอด 24 ชม.เหมือนเช่นเคย

และที่สำคัญ เวลาที่ปรับให้เปิดให้บริการ อาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ตามมาตรการป้องกันการระบาดทั่วประเทศ

ดังเช่นวันนี้ (2 เม.ย. 2563) มีการประกาศเคอร์ฟิวทั่วประเทศ ในวันพรุ่งนี้ ห้ามประชาชนออกจากบ้านในเวลา 22.00-04.00 น.

ตรงนี้เราคงต้องรอดูต่อไปว่าร้านสะดวกซื้อจะปรับตัวเช่นไร

เพราะภาพรวมจะดูเหมือนถูกกระทบเพิ่มขึ้น แต่ก็ไม่แน่ครับ ตอนนี้ทุกร้านสะดวกซื้อ มีช่องทางซื้อของทางออนไลน์ของตัวเองแล้ว ถ้ามีการปรับโมเดลจนครบ และมุ่งการตลาดได้ถูกจุดจริงๆ

วิกฤตครั้งนี้ ก็อาจจะเป็นตัวเร่ง ทำให้ขยายธุรกิจในระยะยาว ได้ดียิ่งขึ้นก็ได้