นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า พรุ่งนี้ (18 มี.ค. 2563) ตลท. จะเริ่มใช้มาตรการชั่วคราวในการปรับเกณฑ์ 2 อย่างคือ “การกำหนดราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor)” และ “เกณฑ์การหยุดการซื้อขายโดยอัตโนมัติ (Circuit Breaker)“ เพื่อลดความผันผวนของภาวะตลาดในปัจจุบันที่เจอปัญหาการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของทั่วโลก โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2563 และไม่เกิน 30 มิถุนายน 2563
1.กำหนดราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor)
ปรับเกณฑ์ซิลลิ่ง-ฟลอร์ จาก บวกหรือลบ 30% เป็น บวกหรือลบ 15% ในทุกผลิตภัณฑ์ตลาดทุนที่มีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) และตลาดหลัทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) อาทิ หุ้น ตราสารหนี้ ใบสำคัญแสดงสิทธิ์อนุพันธ์ (DW) ใบแสดงสิทธิในผลประโยชน์ที่เกิดจากหลักทรัพย์อ้างอิง (Depository Receipt : DR) วอร์แรนต์ ฯลฯ รวมทั้งตลาดในตลาดอนุพันธ์ (TFEX) **ดูตารางประกอบ**
2.การหยุดการซื้อขายโดยอัตโนมัติ (Circuit Breaker)
ที่มีการปรับเพิ่มระดับการใช้เซอร์กิตเบรกเกอร์เป็น 3 ระดับ จากเดิมที่มีอยู่ 2 ระดับ ขั้นแรก ถ้า SET ปรับลง จาก 10% หยุด 30 นาที เป็น 8% หยุด 30 นาที / ขั้นที่ 2 ถ้า SET ปรับลง 15% หยุด 30 นาที /ขั้นที่ 3 ถ้า SET ปรับลง 20% หยุด 60 นาที **ดูตารางประกอบ**
“วัตถุประสงค์ของตลท.ปรับเกณฑ์นี้เพื่อให้ดัชนีหุ้นไทยมีการเคลื่อนไหวที่น้อยลง เจตนาของ ตลท.แน่ชัดอยู่แล้วว่า จะไม่มีการปิดทำการซื้อขายแน่นอน แต่ทำเพื่อให้มีการขายปรับลดลงหรือช้าลง เพราะหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์คือ ทำให้เกิดการซื้อการขาย และทำให้เกิดสภาพคล่องในการซื้อขายในตลาดทุน”
ทั้งนี้ ถือเป็นการปรับเกณฑ์ครั้งที่ 2 ในช่วงสภาวะที่ตลาดหุ้นไทยมีความผันผวน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ปรับปรุงเกณฑ์ short selling ให้ทำได้เฉพาะในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายล่าสุด (uptick) เพราะะภาวะที่ตลาดมีความผันผวนอย่างมากจากปัจจัยภายนอก
You must be logged in to post a comment.