เก็บตกจากเวที World Economic Forum 2020 ที่เป็นฟอรั่มที่รวมตัวกันระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาควิชาการ มาช่วยกันทำงาน หารือและมีเกี่ยวข้องกับการออกกติกาใหม่ๆ ออกมา สำหรับเทรนด์หรือแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น และมีผลกระทบต่อคนทั้งโลก โดยเฉพาะจากเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น
“วิรไท สันติประภพ” ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ชวนกันคิดถึงอนาคตที่ข้างหน้าว่า อยากย้ำให้เห็นภาพชัดเจนว่า ในระยะเวลา 5-10 ข้างหน้าที่จะเกิดขึ้น โลกกำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงด้วยความเร็วที่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านเทคโนโลยีที่จะมีผลกว้างไกลมาก ที่สำคัญคือ จะมีผลกระทบต่อวิถีชีวิตของพวกเราทุกคน รวมถึงมีผลกระทบกับทุกอาชีพของเราทุกคนเช่นกัน
ทั้งนี้ เรื่องสำคัญคือ ต้องเริ่มจากตัวเราเองก่อน ที่ต้องเริ่มมองให้ไกลขึ้น และควรมองการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นทั้ง โอกาสและความท้าทายในขณะเดียวกัน เพราะถ้าเรามองเป็นความกลัวหรือมองเป็นเรื่องที่ท้าทายโดยที่ไม่ได้ทำอะไรเลย หรือมองเป็นความเสี่ยง ทั้งๆ ที่ความจริงมันคือโอกาสที่สำคัญมาก ที่พวกเราจะช่วยกันมาสร้างระบบนิเวศทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในประเทศไทย เพื่อให้ไทยเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก และสามารถใช้ประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยี หรือกระแสต่างๆ ที่จะกลายเป็นกฎเกณฑ์ต่อการฏิบัติต่อโลก โดยคำนึงถึงความยั่งยืนเป็นหลัก
อย่างไรก็ดี ประเด็นหนึ่งที่เป็นที่หารือกันมากคือ ถ้าจะต้องสร้างให้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นจริง เราต้องสร้างระบบแรงจูงใจให้เหมาะสมต่อระบบเศรษฐกิจไทย และต้องเป็นแนวทางที่จะส่งเสริมให้คนปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพราะถ้ามีระบบแรงจูงใจที่เอื้อให้คนทำแบบเดิมๆ อยู่และผลิตแบบเดิมๆ ไม่มีการยกระดับการพัฒนาตัวเอง จะถือว่าเป็นปัญหามาก
หรือแม้กระทั่งต้องมีการเปลี่ยนแปลงกฎกติกาใหม่ๆ จากที่เคยใช้กันอยู่มีความล้าสมัยอยู่ ก็ต้องมีการปรับให้เกิดความเท่าทัน ซึ่งนั่นรวมถึงธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เช่นกัน ที่ยังต้องมีการปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง ที่จะมาช่วยกันสร้างระบบนิเวศเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงให้ทันเท่ากับโลกที่เปลี่ยนไป