วันนี้หุ้นกลุ่มธนาคารเป็นตัวนำดัชนี SET ลดลง โดยวันเดียว มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (มาร์เก็ตแคป) หายไป 120,950 ล้านบาท โดยเป็นมาร์เก็ตแคปที่หายไปของกลุ่มแบงก์ถึง 87,180 ล้านบาท นำโดยธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ที่โดนนักลงทุนทำโทษ ราคาหุ้นดิ่งตั้งแต่เปิดตลาด และระหว่างวันเกือบลุ้นว่าราคาจะหลุดต่ำกว่า 100 บาท จนมาปิดที่ 102 บาท ลดลง 15 บาท หรือ 12.82 % อีกทั้งยังเป็นแกนนำถ่วงน้ำหนักหุ้นกลุ่มแบงก์อื่นๆ ลงตามมาด้วย เช่น ธนาคารกรุงเทพ (BBL) ที่ราคาปิดที่ 150 บาท ลดลง 4 บาท หรือ 2.60 % และธนาคารกสิกรไทย (KBANK) ร่วงตามอีก ปิดที่ 135 บาท ลดลง 6.50 บาท หรือ 4.59 %
SCB นำทัพดาวน์เกรดหุ้นกลุ่มแบงก์
“สรพล วีระเมธีกุล” นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย เปิดเผยว่า จากที่ได้ประเมินกำไรไตรมาส 4 ของ SCB ไว้ที่ 8,000 ล้านบาท แต่ออกมาจริง 5,500 ล้านบาท ทำให้กำไรสุทธิประจำปื 2562 ที่มองว่าจะเติบโต 13-14 % ก็ผิดคาด ซึ่งมีผลทำให้ประมาณการณ์ของผลประกอบการปี 2562 กลุ่มธนาคารพาณิชย์โดยรวมต้องปรับลดลงด้วย
ทั้งนี้ ผลประกอบการที่ออกมาทำให้ผิดหวัง มีตั้งแต่เป็นเพราะผลจากที่ต้องตั้งสำรองเผื่อภาวะเศรษฐกิจปีหน้าที่เป็นขาลงอีก โดยคาดกันว่า ไตรมาส 1/2563 นี้แบงก์ชาติจะมีการลดดอกเบี้ยลง ซึ่งจะมีผลโดยตรงกับหุ้นกลุ่มแบงก์อย่างแน่นอน อีกทั้งมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่สูงกว่าที่คาด ที่สำคัญคือหนี้ที่ไม่เกิดให้เกิดรายได้ (NPL) กลับพุ่งขึ้นอีกเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ขณะที่ส่วนต่างรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Margin หรือ NIM) ก็ถือว่าไม่ได้ดีอย่างที่คาดไว้ ซึ่งมีโอกาสที่ราคาหุ้นจะดาวน์ไซด์ลงไปอีก
เช่นเดียวกัน “กรภัทร วรเวษฐ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า งบ SCB ที่ออกมาต่ำกว่ากลุ่มนักวิเคราะห์คาดถึง 40% อาจส่งผลให้มีการปรับลดประมาณการณ์ลดลง และถ่วงน้ำหนักให้หุ้นแบงก์อื่นๆ ปรับตัวลงตามไปด้วย เพราะถูกดึงจิตวิทยาการลงทุนจากงบที่อ่อนแอของ SCB แต่ก็ต้องติดตามว่าการประกาศงบแบงก์ที่เหลือจะออกมาย่ำแย่เหมือนที่นักลงทุนวิตกกังวลหรือไม่ ซึ่งหากไม่แย่ราคาหุ้นก็มีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นตามหลังได้
ตุนกำไร SCB Life ไว้ลงทุน
“วิจิตร อารยะพิศิษฐ” ผู้อำนวยการอาวุโส นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ที่มองว่า ผลประกอบการของ SCB ออกมาแย่กว่าที่คาดในหลายเรื่อง โดยเฉพาะการจ่ายเงินปันผลพิเศษที่ออกมาเพียง 0.75 บาท ซึ่งถือว่าน้อยกว่าที่ตลาดคาดการ์กันไว้ หลัง SCB รับรู้กำไรจากการขายไปเมื่อไตรมาสที่ 3 ทั้งหมด 92,700 ล้านบาท
“ตัวเลขหลายตัวออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ NIM ไม่เวิร์ก NPL ขยับขึ้น รายได้จากดอกเบี้ยแผ่วลง ปันผลรายงานออกมาแต่ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์แบงก์น่าจะเก็บเงินก้อนจากกำไรที่ขาย SCB Life ไป โดยเฉพาะทำให้รู้ว่ากำไรหลักของ SCB ออกมาแย่กว่าที่คาดการณ์จริงๆ”
คำแนะนำต่อหุ้น SCB แบงก์เล็กลุย KKP
นักวิเคราะห์ต่างให้เว้นวรรคการลงทุน SCB ไว้ก่อนเพื่อรอคำอธิบายจากทีมผู้บริหารที่จะมีการพบนักวิเคราะห์ในวันที่ 22 ม.ค. นี้ก่อน ส่วนจะมีการเปลี่ยนไปสะสมหุ้นแบงก์ตัวอื่นหรือไม่ โดยเฉพาะแบงก์ขนาดใหญ่ที่เหลือว่า ยังต้องรอดูไส้ข้างในงบการเงินรวมออกมาให้หมดก่อน เพราะอาจจะได้รับผลกระทบจากการตั้งสำรอง หรือมีกรณี NPL อยู่ในระดับสูงอีก ซึ่งวันพรุ่งนี้ (21 ม.ค. ) จะมีหุ้น BBL KBANK และ KTB ประกาศผลออกมาอีก
บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า ผลประกอบการ SCB ไตรมาส 4 ออกมา 5,500 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 9,900 ล้านบาท ถือว่าลดลงทั้งจากไตรมาส 3 และลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน รายได้ดอกเบี้ยรับก็ชะลอลง ตาม Loan Growth ที่ลดลง ASP ลดมูลค่าหุ้นที่เหมาะสมลงมาอยู่ที่ 126 บาท จากเดิมอยู่ที่ 132 บาท ขณะที่หากต้องการเก็งกำไรหุ้นขนาดเล็กแนะนำหุ้น ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) เพราะผลประกอบการที่ดีกว่าคาด และมีการจ่ายเงินปันผลที่สูง
You must be logged in to post a comment.