SGP คาดแนวโน้มธุรกิจไตรมาส 2/68 โตต่อเนื่องจากไตรมาสแรก หนุนด้วยยอดขายในประเทศและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น รวมถึงราคาก๊าซ LPG โลกที่ทรงตัว โดยในช่วงไตรมาส 3-4 ซึ่งเป็นไฮซีซั่นของธุรกิจ คาดหนุนยอดขายทั้งปีโต 10% แตะ 3.56 ล้านตันตามเป้า พร้อมทุ่มงบลงทุน 350 ล้านบาท ลุยขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชียใต้ เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว
นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจในช่วงไตรมาส 2/2568 ประเมินว่ามีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ยอดขายจะดีกว่าไตรมาสแรกที่มีวันหยุดเยอะ ในต่างประเทศจะมีวันตรุษจีน โดยปกติแล้วยอดขายในช่วงไตรมาส 2 จะสูงกว่าไตรมาส 1 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากยอดขายทั้งในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น ซึ่งในช่วงไตรมาส 2 ราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลกโดยรวมอยู่ในระดับทรงตัว โดยในช่วงโลว์ซีซั่นบริษัทได้มีการบริหารจัดการต้นทุนและสต๊อกสินค้าให้ต่ำที่สุด มีไว้บริการลูกค้าไม่ให้ขาดแคลน
SGP เร่งเกมนำเข้า “แก๊สเบา” รองรับดีมานด์เฉพาะกลุ่ม ดันยอดขายปีนี้โต 10% ตามแผน
ในช่วงไตรมาส 3 และ 4 จะเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจของบริษัท ปีนี้ประเมินว่าธุรกิจจะดีกว่าปีก่อน เนื่องจากในปีนี้บริษัทได้มีการนำเข้าก๊าซ LPG เข้ามาในประเทศบางส่วน ซึ่งก๊าซนำเข้าจะมีคุณสมบัติที่ตรงตามความต้องการของกลุ่มผู้ใช้ที่เป็นปั๊มแก๊ส LPG และอุตสาหกรรมที่มีความต้องการก๊าซที่มีแรงดันสูงและเผาไหม้ที่เร็วหรือเรียกว่าแก๊สเบา ส่วนแก๊สหนักที่รับมาจากโรงกลั่นน้ำมันภายในประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนของบิวเทนที่สูงกว่า จะมีคุณสมบัติที่ทำให้แก๊สที่ออกมาจะให้เปลวไฟที่นิ่ง เผาไหม้ช้าและมีแรงดันที่ต่ำกว่า เหมาะสมกับการนำไปใช้ในภาคครัวเรือนหรือแก๊สหุงต้มและอุตสาหกรรมทั่วไป ซึ่งจะช่วยให้บริษัทตอบสนองความต้องการใช้ก๊าซ LPG ให้กับแต่ละกลุ่มลูกค้าได้ตรงตามความต้องการได้ดียิ่งขึ้น สนับสนุนเป้ายอดขายปีนี้ได้โตราว 10% โดยปริมาณขายก๊าซ LPG คาดอยู่ที่ราว 3.56 ล้านตัน จากปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณขายอยู่ที่ 3.23 ล้านตัน คาดทำได้ตามแผน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการขายก๊าซ LPG ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้ที่มากขึ้น
SGP ปักงบ 350 ลบ. ลุยลงทุนคลังก๊าซใน-ต่างประเทศ พร้อมเล็งขยายสู่เอเชียใต้
นอกจากนี้ ได้ตั้งงบลงทุนปีนี้ 350 ล้านบาท แบ่งเป็นในประเทศ 160 ล้านบาท เพื่อใช้ปรับปรุงคลังก๊าซ LPG และอีก 190 ล้านบาท ใช้เพื่อก่อสร้างและปรับปรุงคลังก๊าซ LPG ในต่างประเทศ ที่มาเลเซีย และเวียดนาม นอกจากนี้ บริษัทฯอยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนธุรกิจก๊าซแอลพีจีในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย รวมไปถึงเล็งที่จะขยายการลงทุนเพิ่มในประเทศแถบเอเชียใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตคู่ขนานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อย่างมั่นคง และช่วยสนับสนุนภาพรวมการเติบโตในอนาคต
ทั้งนี้ ผลประกอบการ Q1 ปี 2568 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 125.06 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย จากการขนส่ง และการให้บริการ 19,608.72 ล้านบาท ต้นทุนขาย บริการ และขนส่ง 18,850.73 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร 372.56 ล้านบาท และกำไรต่อหุ้นเท่ากับ 0.07 บาท