บมจ.เกรซ วอเทอร์ เมด หรือ GWM วางหมากลุยธุรกิจดูแลผู้ป่วยโรคไตครบวงจรเต็มรูปแบบ เตรียมยื่นแบบไฟลิ่งภายในไตรมาส 3/2568 หวังระดมทุนรองรับการเติบโต ตั้งเป้ารายได้กลุ่มธุรกิจเติบโตเฉลี่ย 30% ภายใน 3 ปี เดินหน้าขยายกำลังผลิตน้ำยาฟอกไต จาก 180,000 เป็น 240,000 แกลลอนต่อเดือน ภายในไตรมาส 4 ปีนี้ มั่นใจศักยภาพตลาดไทยจากฐานผู้ป่วยโรคไตกว่า 11.6 ล้านราย หนุนโอกาสขยายธุรกิจเพื่อรองรับความต้องการที่ยังขาดแคลนอย่างต่อเนื่อง
นายธงชัย ปามิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เกรซ วอเทอร์ เมด จำกัด (มหาชน) หรือ GWM ดำเนินธุรกิจโรงงานผลิตน้ำยาฟอกไต ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้ป่วยโรคไตผ่านคลินิกเฉพาะทางด้านเวชกรรมไตเทียมและศูนย์ไตเทียมในโรงพยาบาลทั้งภาครัฐและเอกชนแบบครบวงจร และจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับคลินิกฟอกไต เปิดเผยว่าบริษัทฯ มีแผนในการขยายธุรกิจให้เติบโตรองรับความต้องการของผู้ใช้บริการที่มีสัญญาณเพิ่มสูงขึ้นทุกปี
ผู้ป่วยโรคไตไทยพุ่ง 11.6 ล้านราย เครื่องฟอกไตยังไม่เพียงพอ หนุนดีมานด์ธุรกิจดูแลไตโตแรง
โดยข้อมูลสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวถึงสถานการณ์ผู้ป่วยโรคไตในประเทศไทยว่า ปัจจุบันคนไทยป่วยด้วยโรคไตสูงเป็นอันดับ 5 ของโลก โดยมีจำนวนผู้ป่วยประมาณ 11.6 ล้านคน และมีคนไทยกว่า 1.12 ล้านคนมีภาวะโรคไตเรื้อรัง ขณะที่ประเทศไทยมีเครื่องฟอกเลือดด้วยไตเทียม ประมาณเกือบ 5 หมื่นเครื่อง ซึ่งกระจายอยู่ที่คลินิกประมาณ 1,151 แห่ง และรถฟอกไตเคลื่อนที่อีกบางส่วน ซึ่งถือว่ายังไม่เพียงพอต่อความต้องการ
GWM จึงมีแผนที่จะขยายการให้บริการให้เติบโตรองรับความต้องการผู้ป่วย ผ่านธุรกิจทั้ง 4 ประเภท ดังนี้
➡️ 1. ธุรกิจน้ำยาไตเทียมและน้ำยาทำความสะอาด กำลังการผลิตปัจจุบันสำหรับการผลิตน้ำยาฟอกไตอยู่ที่ประมาณ 180,000 แกลลอนต่อเดือน ซึ่งมีแผนจะเพิ่มกำลังการผลิตเป็น 240,000 แกลลอนภายใน Q4 ปี 2568
➡️ 2. ธุรกิจการจัดจำหน่ายและให้เช่าเวชภัณฑ์ในหน่วยไตเทียม ดำเนินธุรกิจด้วยการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศที่ได้มาตรฐานระดับสูง โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ดังนี้
วัสดุสิ้นเปลืองสำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ได้แก่ สายส่งเลือด เข็มฟอกไต ตัวกรองเลือดไตเทียม น้ำเกลือสำหรับฉีดเข้าเส้นเลือดชนิดนอร์มัลซาไลน์ เป็นต้น ซึ่งจำหน่ายควบคู่กับน้ำยาเข้มข้นสำหรับฟอกเลือด
เครื่องไตเทียม กลุ่มบริษัทยังเป็นตัวแทนจำหน่ายและให้เช่าเครื่องฟอกไต ที่มีจุดเด่นด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยเครื่องฟอกไตที่บริษัทนำมาจัดจำหน่ายผ่านการวิจัยและพัฒนามากว่า 10 ปี
➡️ 3. ธุรกิจการให้บริการออกแบบ และติดตั้งระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม และการบำรุงรักษาระบบ (“ธุรกิจระบบน้ำ RO”)
➡️ 4. ธุรกิจการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมและเวชสำอางสำหรับผู้ป่วยโรคไต
นายธนวรรธน์ พีระวีระภัทร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน กล่าวว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ มีรายได้รวม 142 ล้านบาท รายได้หลักมาจากธุรกิจการผลิตน้ำยาฟอกไตสำหรับเครื่องไตเทียม คิดเป็น 70% ของรายได้ทั้งหมด ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าว่าภายใน 3 ปีข้างหน้ารายได้รวมจะเติบโตขึ้นเป็น 200 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ยปีละ 10% ซึ่งปัจจัยที่จะสนับสนุนการเติบโตของรายได้จะมาจากการขยายศูนย์ฟอกไต และอัตราที่เพิ่มขึ้นของผู้ป่วยโรคไตในแต่ละปี ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ดังนั้นบริษัทฯ จึงมีแผนในการเข้าระดมทุนด้วยการจำหน่ายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ในตลาดหลักทรัพย์ โดยมีแผนจะยื่นไฟลิ่งในช่วงไตรมาส 3/2568