KTIS เผยครึ่งปีหลัง แนวโน้มสดใสจากหลายปัจจัยบวก

KTIS เผยภาพรวมธุรกิจครึ่งปีหลัง 2568 มีแนวโน้มสดใสจากหลายปัจจัยบวก ทั้งการรับรู้รายได้จากธุรกิจน้ำตาล กากน้ำตาล เยื่อกระดาษ และโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่เริ่มทยอยเข้ามาเต็มไตรมาส อีกทั้งยังได้แรงหนุนจากปริมาณอ้อยที่เพิ่มขึ้นและผลผลิตต่อไร่ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง จากความร่วมมือระหว่างบริษัทฯ กับเกษตรกรในการส่งเสริมการตัดอ้อยสดและใช้เทคโนโลยีใหม่ ช่วยเสริมโอกาสเติบโตแบบยั่งยืนตามเป้าหมายธุรกิจ BCG

นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายสมชาย สุวจิตตานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายธุรกิจอ้อยและน้ำตาล และผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องครบวงจรสู่ Bio‑Circular‑Green หรือ BCG อย่างยั่งยืน ร่วมให้ข้อมูลต่อผู้ลงทุน โดยเปิดปัจจัยบวกต่อผลการดำเนินงานครึ่งปีหลังปี 2568 ว่า มีหลายปัจจัย เช่น

➡️ การรับรู้รายได้จากธุรกิจน้ำตาลทรายและกากน้ำตาล ซึ่งจะมากขึ้นในครึ่งปีหลัง
➡️ สายธุรกิจเยื่อกระดาษชานอ้อย รวมไปถึงบรรจุภัณฑ์ชานอ้อยบริสุทธิ์ 100%
➡️ การผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชีวมวล ที่มีรายได้มากขึ้นจากปริมาณวัตถุดิบที่มีมากขึ้น

ผู้บริหารกลุ่ม KTIS มั่นใจว่า ด้วยปริมาณฝนที่ตกมากและเร็วในปีนี้ จะส่งผลดีต่อผลผลิตอ้อยในฤดูการผลิตปี 2568/69 และชาวไร่อ้อยยังมีการขยายพื้นที่เพาะปลูกอ้อยมากขึ้นด้วย ประกอบกับการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดของฝ่ายไร่กลุ่ม KTIS กับเกษตรกรชาวไร่อ้อย เพื่อส่งเสริมอุปกรณ์การตัดอ้อยสด ส่งเสริมความรู้และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตอ้อยต่อไร่ จะทำให้ได้ผลผลิตอ้อยต่อไร่สูงขึ้น