CHAO ประกาศเดินหน้าขับเคลื่อนแผนเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 แม้ผลประกอบการไตรมาส 1 จะชะลอตัวจากการปรับรูปแบบจัดจำหน่าย และการเลื่อนเปิดตัวสินค้าใหม่บางตลาด แต่ยังสามารถสร้างการเติบโตโดดเด่นในกลุ่มขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อสัตว์ที่พุ่งขึ้น 11.8% รับแรงหนุนจากตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน พร้อมมุ่งพัฒนาช่องทางจัดจำหน่าย พันธมิตรเชิงกลยุทธ์ และกลยุทธ์เฉพาะตลาด เพื่อผลักดันการเติบโตยั่งยืนทั้งในและต่างประเทศต่อเนื่องตลอดปี
นางสาวณภัทร โมรินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ้าสัว ฟู้ดส์ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ CHAO หนึ่งในผู้นำธุรกิจผลิตและจำหน่ายขนมขบเคี้ยวและผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเนื้อสัตว์ ภายใต้แบรนด์ “เจ้าสัว” เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2568 (มกราคม – มีนาคม) บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 323.3 ล้านบาท ชะลอตัวลง 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะกำไรสุทธิทำได้ 11.5 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 56.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) สาเหตุหลักจากการปรับเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ทั้งในและต่างประเทศ
โดยในตลาดในประเทศ บริษัทฯ ได้เปลี่ยนรูปแบบการจัดจำหน่ายสำหรับผู้ค้าส่ง จากเดิมที่ดำเนินการผ่านตัวแทน มาเป็นการจำหน่ายผ่านบริษัทฯ โดยตรง ซึ่งกระทบต่อกระบวนการกระจายสินค้าในช่วงเปลี่ยนผ่าน
ขณะที่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีน มีการเลื่อนช่วงเวลาการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ข้าวตัง (New SKU) จากเดิมในไตรมาส 1 มาเป็นไตรมาส 2/2568 ประกอบกับการชะลอตัวของคำสั่งซื้อจากตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะสินค้ารับจ้างผลิต (OEM) ที่จัดจำหน่ายไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับผลกระทบจากการที่คู่ค้าเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์การจัดการสินค้าคงคลังเป็นแบบ Lean Stock Strategy
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่าการปรับเปลี่ยนดังกล่าว เป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น และจะเห็นการฟื้นตัวของยอดขายในไตรมาสถัดไป เมื่อกระบวนการกระจายสินค้าในประเทศเข้าสู่ภาวะปกติ
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จ ในการรักษาเครือข่ายผู้ค้าส่งเดิมไว้อย่างครบถ้วน และขยายฐานพันธมิตรผู้ค้าส่งรายใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ให้มีความหลากหลาย เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าอย่างครอบคลุมทุกมิติ และเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับช่องทางการจัดจำหน่ายในระยะยาว
ขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อสัตว์เติบโตเด่น
ธุรกิจขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อสัตว์เติบโตโดดเด่น โดยเพิ่มขึ้น 11.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากความสำเร็จในการขยายตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะประเทศจีน ที่ตอบรับผลิตภัณฑ์ใหม่ “คริสปี้ฟิชสติ๊ก” อย่างล้นหลามตั้งแต่เปิดตัวในไตรมาสแรกของปี นำเสนอขนมขบเคี้ยวภายใต้แนวคิด Better-for-you เพื่อตอบโจทย์ทั้งความอร่อยและสุขภาพของผู้บริโภคยุคใหม่อย่างแท้จริง
ความสำเร็จดังกล่าว สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าและเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ผ่านการเพิ่มกิจกรรมทางการตลาดและการโฆษณาอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทฯ สามารถเจาะกลุ่มผู้บริโภคใหม่ พร้อมรักษาฐานลูกค้าเดิมได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวในการขยายธุรกิจในตลาดต่างประเทศตามแผนยุทธศาสตร์
ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CHAO กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มุ่งเน้นพัฒนาตลาดภายในประเทศเป็นหลัก โดยขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายทุกกลุ่ม
พร้อมใช้กลยุทธ์ Marketing 360° ผสานช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อเพิ่มการเข้าถึงลูกค้า และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับผู้บริโภค
รวมถึงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ข้าวตังและขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อสัตว์ โดยตั้งเป้าขยายส่วนแบ่งการตลาดผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ และยกระดับประสบการณ์ลูกค้า ควบคู่กับการพัฒนาตามแนวทางความยั่งยืน (ESG)
นอกจากนี้ยังมองหาตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ และให้ความสำคัญกับตลาดต่างประเทศ เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืนบนเวทีสากล โดยพัฒนากลยุทธ์เฉพาะสำหรับแต่ละตลาด เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับกลุ่มพันธมิตร เพื่อสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน การเข้าถือหุ้น 5.362% ใน CHAO ของ TKN ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งในอุตสาหกรรมอาหาร
“เรามองเห็นผลตอบรับที่น่าพึงพอใจในไตรมาสแรก หลังจากการปรับกลยุทธ์ในช่วงที่ผ่านมา โดยเฉพาะในกลุ่มขนมขบเคี้ยวแปรรูปจากเนื้อสัตว์ที่เติบโตถึง 11.8% สะท้อนความสำเร็จของการขยายตลาดต่างประเทศ และการตอบรับผลิตภัณฑ์ใหม่ภายใต้แนวคิด Better-for-you ที่ตอบโจทย์ทั้งความอร่อยและสุขภาพ แม้จะชะลอตัวจากการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดจำหน่ายในประเทศ และการเลื่อนเปิดตัวสินค้าใหม่ในบางตลาด แต่เรามั่นใจว่าเป็นเพียงผลกระทบระยะสั้น และจะเห็นการฟื้นตัวในไตรมาสถัดไป โดยเจ้าสัวมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันก็ขยายไปสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศที่มีศักยภาพเติบโตทุกภูมิภาคทั่วโลก เพื่อบริหารจัดการความเสี่ยง และไม่พึ่งพิงตลาดใดตลาดหนึ่ง แต่เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว รวมถึงนำขนมขบเคี้ยวแบรนด์ไทยไปโตในระดับโลก” นางสาวณภัทร กล่าว