BKA ผู้นำบริการซื้อ-ขายบ้านมือสองตกแต่งใหม่ จ่อลงสนามเทรดตลาด mai วันพรุ่งนี้ (22 เม.ย. 2568) ระดมทุนการขยายพอร์ตธุรกิจให้บริการปรับปรุงบ้านมือสองเพื่อขาย พร้อมเปิดแพลตฟอร์ม “Prop Tech” Virtual Reality มิติใหม่ในการเลือกซื้อบ้านเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ ด้านผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ก่อตั้งบริษัท ประกาศ Lock up หุ้น 87% สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
นายพชร ธนวงศ์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก ในวันพรุ่งนี้ (22 เม.ย.2568) ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ภายใต้ชื่อหลักทรัพย์ว่า “BKA” โดยบริษัทเชื่อมั่นว่าการเข้าซื้อขายในวันพรุ่งนี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากพื้นฐานทางธุรกิจของ BKA เป็นผู้นำธุรกิจบริการซื้อ-ขายบ้านมือสองตกแต่งใหม่ ที่มุ่งให้บริการปรับปรุงบ้านมือสองเพื่อขาย ในรูปแบบธุรกิจบ้านแต่ง (Flipping) ธุรกิจนายหน้าซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์ (ธุรกิจบ้านฝาก) และธุรกิจซื้อบ้านมือสองมาปรับปรุงเพื่อขาย (ธุรกิจบ้านตัด) ที่ได้การยอมรับจากกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ก้าวสู่ “การเป็นที่หนึ่งเรื่องบ้านมือสอง”
โดยอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ณ สิ้นปี 2567อยู่ที่ระดับ 1.15 เท่า
ประกอบกับเงินทุนที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้ ยิ่งทำให้บริษัทมีฐานทุน ที่แข็งแกร่ง และพร้อมต่อยอดเพื่อขยายพอร์ตการให้บริการบ้านแต่ง (Flipping) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะ บ้านมือสองที่มีศักยภาพการเติบโตจากสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) มีทรัพย์สิน รอการขาย (NPA) ในระบบจำนวนมาก ซึ่งคุ้มค่าต่อการลงทุน
รวมถึงการพัฒนาธุรกิจ Property Technology (Prop Tech) โดยสร้าง Platform ตัวกลางในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ จากการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาข้อมูลให้แก่ผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน
และเทคโนโลยีระบบเสมือนจริง (Virtual Reality) มาใช้ในการแนะนำบ้านให้กับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านได้เห็นภาพบ้านเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ ยิ่งสร้างโอกาสการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ
“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกสู่การเป็นบริษัทมหาชนอย่างเต็มตัว รวมถึงยังเป็นการสร้างโอกาสเติบโตให้กับบริษัท ทั้งฐานทุนที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มศักยภาพภาพลักษณ์องค์กร ให้เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน ที่แข็งแกร่งทางธุรกิจ ประกอบกับทีมบริหารที่มีวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ธุรกิจที่ชัดเจน ยิ่งตอกย้ำว่า BKA มีโอกาสการเติบโตเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงมองว่านักลงทุนที่ลงทุนไปพร้อมกับเราในวันนี้ก็จะเติบโตไปพร้อมๆ กับ BKA เช่นกัน พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ทางผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ก่อตั้งบริษัทพร้อมใจกัน Lock-Up ตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมกัน 87% ของทุนชำระแล้วก่อน IPO หรือคิดเป็น 62.14% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO เพื่อเป็นการยืนยันว่าวันที่หุ้นเข้าซื้อขายในกระดานเทรดวันแรกจะไม่มีการ เทขายจากกลุ่มนี้ออกมาอย่างแน่นอน” นายพชร กล่าว
ทางด้าน นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า หุ้น BKA จะเป็นหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เนื่องจาก มีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกว่า 12 ปีและด้วยจุดเด่นของ BKA ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการซื้อ-ขายบ้านมือสองตกแต่งใหม่ ซึ่งถือเป็นรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ
โดยเฉพาะในธุรกิจให้บริการบ้านแต่ง (Flipping) ที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูง จึงทำให้หุ้น BKA ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีตลอดช่วงระยะเวลาที่มีการเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงที่ผ่านมา
ประกอบกับตัวเลขผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2565 – 2567) สะท้อนถึงรายได้รวม และกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น
➡️ ปี 2565 มีรายได้รวม 1,302.92 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.44 ล้านบาท
➡️ ปี 2566 มีรายได้รวม 1,313.59 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22.27 ล้านบาท
➡️ ปี 2567 มีรายได้รวม 1,142.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 36.82 ล้านบาท
“ดังนั้นจึงมองว่าหุ้น BKA จะเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่สร้างโอกาสการเติบโตเพิ่มขึ้น และมองว่า BKA เป็นหุ้น Growth Stock ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต” นางนิสาภรณ์ กล่าวปิดท้าย