1️⃣ บริษัท เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ JMART รายงานผลประกอบการปี 2566 ขาดทุนสุทธิ 447.01 ล้านบาท ลดลง 124.9% จากปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1.79 พันล้านบาท สาเหตุหลักมาจากส่วนแบ่งขาดทุนจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมและผลขาดทุนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงจากสินทรัพย์ทางการเงินอื่น 843 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมรายการผลขาดทุน, บริษัทจะมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานเท่ากับ 396 ล้านบาท
2️⃣ รายได้รวมประจำปี 2566 ของ JMART อยู่ที่ 13,743.5 ล้านบาท ลดลง 1.3% เปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า โดยบริษัทมีรายได้จากดอกเบี้ย, ค่าเช่า, การรับประกันภัย, และธุรกิจบริหารหนี้เพิ่มขึ้นทั้งหมด
3️⃣ ธุรกิจจัดจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมของ JMART มีจำนวนสาขาทั่วประเทศ 319 สาขา มียอดขาย 8,699 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 1,365 ล้านบาท
4️⃣ ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพธุรกิจของ JMT Netverse Services (JMT) มีผลกำไรสุทธิ 2,010.7 ล้านบาท เติบโต 15.2%
5️⃣ ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ของ JAS Asset (JAS) มีผลกำไรสุทธิ 192.6 ล้านบาท ลดลง 4.8%
6️⃣ ธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าและการเงินของ SINGER และ SG Capital (SGC) มีผลขาดทุนสุทธิ 3,210 ล้านบาท และ 2,275 ล้านบาท ตามลำดับ
7️⃣ ธุรกิจเทคโนโลยีของ JV Ventures (JV) เข้าร่วม NDID เป็น Public IdP เพื่อให้บริการพิสูจน์และยืนยันตัวตนทางดิจิทัลแก่สมาชิก NDID RP หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน และมีการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีต่างๆ
8️⃣ นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร JMART มั่นใจในปี 2567 และตั้งเป้าหมายกำไรนิวไฮผ่าน 3 กลยุทธ์หลัก
💰 ตั้งเป้าหมายกำไรนิวไฮจากการเติบโตต่อเนื่องของ JMT
💰 ลงทุนในสุกี้ตี๋น้อยในสัดส่วนร้อยละ 30 เพื่อสร้างผลกำไรที่น่าประทับใจ
💰 SINGER และ SGC ฟื้นตัวจากสถานการณ์ในปี 2566 และสร้าง New S-Curve ด้วย The New Jaymart ที่เน้นด้าน Commerce Tech และ Fintech
📊 JMART ติดสัญญาณ Radars อะไรบ้าง
📌 Company Buyback = บริษัทจะซื้อหุ้นJMART คืนภายในระยะเวลา 3 ปี
📌 EPS Regression = กำไรต่อหุ้นของ JMART ในไตรมาสปัจจุบันน้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 40% ขึ้นไป
📌 Consistent Dividend = JMART เป็นหุ้นที่มีการปันผลเป็นระยะเวลา 5 ปีติดต่อกัน