บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เปิดเผยผลการดำเนินงานประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 ว่ามีกำไรก่อนหักดอกเบี้ยจ่ายและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ต่างๆ อยู่ที่ 9,026 ล้านบาท โดยคิดเป็นกำไรสุทธิที่ 3,453 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นการเพิ่มขึ้นประมาณ 32.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ในไตรมาสเดียวกันนี้ บริษัทต้องจ่ายดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจากเงินกู้ระยะยาวที่ยืมจากสถาบันการเงินของเทสโก้ โลตัส ส่งผลให้บริษัทต้องจ่ายดอกเบี้ยสูงถึง 3,825 ล้านบาท
รายได้รวมเติบโต 49.7%
ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2565 บริษัทมีรายได้รวม 199,731 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นกว่า 49.7% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากปัจจัยสนับสนุนต่างๆ ดังนี้
- การฟื้นตัวของรายได้จากการขายและบริการของธุรกิจร้านสะดวกซื้อ
- การเติบโตอย่างต่อเนื่องของธุรกิจค้าปลีก-ส่งสินค้าอุปโภคบริโภค โดยแม็คโครยังสามารถรักษาอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายและบริการไว้ได้
- การรับรู้รายได้จากของเทสโก้ โลตัสที่เพิ่มเข้ามา
- ปัจจัยบวกจากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิดและกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น
โดยบริษัทมีสัดส่วนรายได้ในกลุ่มธุรกิจร้านสะดวกซื้ออยู่ที่ 47% และรายได้จากธุรกิจค้าปลีก-ส่งสินค้าอุปโภคบริโภคอีก 53% โดยในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปีนี้ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อสามารถเปิดสาขาใหม่เพิ่มได้อีก 119 สาขา ส่งผลให้มีจำนวนสาขาทั่วประเทศทั้งสิ้น 13,253 สาขา ธุรกิจร้านสะดวกซื้อมีรายได้จากการขายสินค้าและบริการประมาณ 81,715 ล้านบาท คิดเป็นการเพิ่มขึ้นประมาณ 16% มียอดขายเฉลี่ยต่อร้านต่อวันประมาณ 73,460 บาท และยอดขายเฉลี่ยของแต่ละสาขาก็เพิ่มขึ้นประมาณ 13% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุมาจากการผ่อนคลายและยกเลิกมาตรการต่างๆ รวมถึงมีมาตรการกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจและกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ทำให้ผู้คนออกมาจับจ่ายใช้สอยกันมากยิ่งขึ้น
700 สาขาคือเป้าหมายของปี 2565
สำหรับแผนการพัฒนาในปี 2565 บริษัทเตรียมแผนที่จะพัฒนาช่องทางการจำหน่ายสินค้าและบริการทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์และออฟไลน์ ซึ่งรวมถึงการขยายสาขาให้มากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้บริโภคและยังเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยบริษัทวางแผนที่จะเปิดร้านสะดวกซื้อสาขาใหม่อีกประมาณ 700 สาขาในปี 2565 และคาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตจากยอดขายของร้านสาขาใหม่และยอดขายเฉลี่ยจากสาขาเดิมได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจไทยจะกำลังฟื้นตัวหลังจากเกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ บริษัทก็ยังคงต้องติดตามสถานการณ์การปรับขึ้นของราคาพลังงาน และสินค้าโภคภัณฑ์ซึ่งกระทบต่อต้นทุนสินค้า ค่าขนส่ง ค่าครองชีพ รวมถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างใกล้ชิด เพื่อควบคุมต้นทุนให้เป็นไปตามที่วางแผนไว้
On Radars
CPALL
1️⃣Company Buyback = CPALL ซื้อคืนหุ้นภายในระยะเวลา 3 ปี
2️⃣Selected by Institutional = CPALL เป็นหนึ่งในหุ้น 24 ตัวที่กองทุนเลือกลงทุนมากที่สุด
3️⃣Consistent Dividend = CPALL เป็นหุ้นที่มีการปันผลเป็นระยะเวลา 5 ปีติดต่อกัน
[SPECIAL] ⭐เปิดบัญชีเทรดผ่าน StockRadars กับหลักทรัพย์ กรุงศรี วันนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีขั้นต่ำ ง่าย อนุมัติเร็ว และ ยังได้ใช้ StockRadars “ฟรีทุกฟีเจอร์ !!” สมัครเลยที่ 👉🏻 https://bit.ly/33AyotD
#StockRadars #ทำเรื่องหุ้นเป็นเรื่องง่าย #StockRadarsNews
หรือติดตามเรา ในช่องทางอื่นๆ
Website: https://www.stockradars.news
Application: https://www.stockradars.co/getradars
LINE: @StockRadars https://line.me/R/ti/p/%40stockradars
Telegram: https://t.me/StockRadars
Blockdit: https://www.blockdit.com/stockradars