บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP รายงานผลประกอบรายได้โตกว่า 34% เทียบระหว่างปี 2564 และปีก่อนหน้า หรือจาก 92,786 ล้านบาทไปสู่ 124,223 ล้านบาทเลยทีเดียว
นอกจากนี้ SCGP ยังเปิดเผยว่าการเติบโตดังกล่าวมาจากการบริษัทได้ดำเนินการบรรลุ 3 เป้าหมาย อันได้แก่ การเติบโตแบบมีคุณภาพผ่านการขยายตัวไปยังกลุ่มหมวดธุรกิจที่เติบโตอย่าง สุขภาพ อาหารและอุปกรณ์ทางการแพทย์ การสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภคด้วยการใช้นวัตกรรม ตลอดจนการมุ่งสู่แนวทางธุรกิจที่ยั่งยืน
โดยการเน้นการตอบโจทย์ให้กับความต้องการของผู้บริโภคต่างๆ เห็นได้จากการที่ผลิตภัณฑ์ของบริษัทเกี่ยวข้องกับผู้บริโภคกว่า 71% โดยสัดส่วนส่วนใหญ่เป็นหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ในขณะที่ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมมีเพียงประมาณ 29% เท่านั้น
แนวทางดังกล่าวจึงมีความน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องด้วยเป็นโอกาสและความท้าทายสำหรับการดำเนินธุรกิจของ SCGP อยู่ไม่น้อย ในทางหนึ่งทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถตอบสนองให้ผู้บริโภคได้หลากหลายทางเลือกและหลายกลุ่มลูกค้ามากขึ้น แต่ก็ต้องมีสร้างนวัตกรรมเพื่อพัฒนาให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ฐานการเติบโตของ SCGP ไม่ได้มีเพียงตลาดในประเทศไทยเพียงเท่านั้น แต่ยังขยายไปถึงระดับภูมิภาคอาเซียนอีกด้วยซึ่งเพิ่มเป็น 40% ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ เป็นต้น และมีความต้องการที่จะขยายไปยังส่วนต่างๆ ของโลกมากขึ้น ซึ่ง ณ ตอนนี้มีสัดส่วนอยู่เพียง 15%
ทั้งนี้ สัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่ของ SCGP เมื่อมองไปยังผลิตภัณฑ์ยังคงเป็นบรรจุภัณฑ์แบบ Integrated packaging กว่า 85% ที่มีการใช้ผลิตภัณฑ์แบบกระดาษเป็นหลัก ซึ่งโดยรวมแล้วมีการยกระดับการใช้นวัตกรรมเพิ่มขึ้นเป็น 29% ในปี 2564 เลยทีเดียว
โดยรวมแล้ว การเติบโตของ SCGP ค่อนข้างเติบโตได้อย่างสดใสเลยทีเดียว จากการที่นำธุรกิจเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้บริโภค แต่ยังอาจต้องเผชิญกับต้นทุนที่ค่อนข้างผันผวนจากเงินเฟ้อหรือค่าวัตถุดิบต่างๆ ซึ่ง ณ ตอนนี้เอง SCGP จึงเลือกใช้การเติบโตโดยนวัตกรรมเพื่อลดต้นทุนให้น้อยลงโดยใช้วัตถุดิบทางเลือก ในขณะเดียวกันก็สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่แตกต่างกันได้