นาย ณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมมือกับพาร์ตเนอร์ธุรกิจคือ Zipmex ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของประเทศและภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก อำนวยความสะดวกลูกค้าโครงการอสังหาริมทรัพย์ของ SC โดยเปิดรับชำระค่าสินค้าและบริการผ่าน 5 สกุลเงินดิจิทัล ประกอบด้วย BTC, ETH, ZMT, USDT และ USDC ทั้งนี้ เพื่อรองรับการขยายฐานกลุ่มลูกค้าอนาคตทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยจะเริ่มรับสกุลเงินดิจิทัลตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป
โดยนายณัฐพงศ์กล่าวว่า ปัจจุบัน market cap ของคริปโตฯ มีมูลค่ามากกว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งเติบโตจากปี 2562 ถึง 10 เท่า และเติบโตควบคู่ไปกับจำนวนผู้ใช้คริปโตฯ โดยที่ต้นปี 2564 มีจำนวนผู้ใช้มากกว่า 100 ล้านคน เพิ่มจากเดิม 35 ล้านคนในเวลา 2 ปี รวมไปถึงดีมานด์ของอสังหาฯ ที่สูงขึ้นจากการเปิดประเทศ ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญที่ขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาฯ ในปี 2565
นอกจากการร่วมมือกับ Zipmex เพื่อซื้อบ้านและคอนโดผ่าน 5 สกุลเงินดิจิทัลแล้ว บริษัทยังเห็นโอกาสในการเติบโต และได้เตรียมแผนการดำเนินงานใน 3 เรื่องสำคัญ ดังต่อไปนี้
- หาโอกาสการออก SC Morning Coin ภายในปีหน้า ซึ่งเป็น Utility Token เพื่อประโยชน์ของพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า และนักลงทุนที่หลากหลายรวมกว่า 400,000 คน ภายใน Ecosystem ของ SC เป็นการต่อยอดจาก SC Token ที่ปัจจุบันใช้กันภายในองค์กรอยู่แล้ว
- หารือเกี่ยวกับทำ ICO (Initial Coin Offering) ซึ่งเป็น Security Token เพื่อการระดมทุนภายใน 3 ปีนี้ ปัจจุบัน SC มีสินทรัพย์ที่สร้าง Recurring Income มูลค่ารวมกว่า 6,000 ล้านบาท
- มองหาโอกาสการทำ NFT (Non-Fungible Tokens) แรกจาก SC Asset ซึ่งคาดว่าภายในปีหน้าอาจได้พบกับแบบบ้านและนวัตกรรมใหม่ๆ ในรูปแบบ NFT รวมถึงการนำไปสู่การซื้ออสังหาฯ หรือสินทรัพย์อื่น ๆ ใน Metaverse จาก SC Asset โดยปัจจัยสำคัญของความร่วมมือเกิดจากแนวนโยบายภายใต้ทิศทางที่สอดคล้องกัน คือ การพัฒนา Solutions เพื่อลูกค้า
โดย SC มี Inventory สร้างเสร็จพร้อมเข้าอยู่มูลค่ารวม 24,000 ล้านบาท แบ่งเป็นบ้านและคอนโดของ SC Asset รวมถึงคอนโด Scope บริษัทในเครือ พร้อมรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว
โดยทางบล.หยวนต้าคาดว่า มูลค่าเปิดตัวโครงการใหม่ในปี 2565 บริษัทจะเปิดตัวโครงการแนวราบรวมมูลค่าอย่างน้อย 2.0 หมื่นลบ. และโครงการแนวสูงอีกจำนวน 3-4 โครงการ รวมมูลค่าราว 1.0-1.5 หมื่นลบ. ทั้งนี้ยอดเปิดตัวโครงการใหม่ที่ระดับ 3.0-3.5 หมื่นลบ.จะเป็นจุดที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์และจะเป็นปัจจัยสำคัญหนุนการเติบโตของยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ปี 2565 เป็นต้นไป
โดยทาง SC ได้ติดสัญญาณ Radars “Revenue Growth 3 Y” หรือ บริษัทที่มีรายได้ (Revenue) เติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 3 ปีติดต่อกัน และ “Consistent Dividend” หรือ หุ้นที่ปันผลติดต่อกันเป็นระยะเวลา 5 ปีติดต่อกัน
[เพิ่มเติม] ⭐เปิดบัญชีเทรดผ่าน StockRadars กับหลักทรัพย์ กรุงศรี วันนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีขั้นต่ำ ง่าย อนุมัติเร็ว และ ยังได้ใช้ StockRadars “ฟรีทุกฟีเจอร์ !!” สมัครเลยที่ 👉🏻 https://bit.ly/33AyotD
#StockRadars #ทำเรื่องหุ้นเป็นเรื่องง่าย #StockRadarsNews
หรือติดตามเรา ในช่องทางอื่นๆ
Website: https://www.stockradars.news
Application: https://www.stockradars.co/getradars
LINE: @StockRadars https://line.me/R/ti/p/%40stockradars
Telegram: https://t.me/StockRadars
Blockdit: https://www.blockdit.com/stockradars