สัปดาห์นี้ (16-19 พฤศจิกายน 2564) เปิดสัปดาห์มาด้วยการปรับตัวขึ้นอย่างสดใส ก่อนจะทะลุขึ้นไปยืนถึง 1,651.02 จุดในช่วงปลายสัปดาห์ เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนที่หุ้นไทยเคลื่อนไหวเพียงในกรอบ 1,630 – 1,635 จุด ทั้งนี้เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า โดยรวมหุ้นไทยถือว่ามีแนวโน้มที่จะค่อยๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ภายหลังจากการย่อตัวและปรับฐานมาก่อนหน้านี้
โดยแต่ละวันในสัปดาห์ หุ้นไทยปิดตลาดและมีมูลค่าซื้อขายสุทธิดังต่อไปนี้
⁃ 16/11/64 ปิดตลาดที่ 1,644.01 จุด มูลค่าการซื้อขาย 86,414.00 ล้านบาท
⁃ 17/11/64 ปิดตลาดที่ 1,644.60 จุด มูลค่าการซื้อขาย 83,424.17 ล้านบาท
⁃ 18/11/64 ปิดตลาดที่ 1,651.02 จุด มูลค่าการซื้อขายสุทธิ 76,537.81 ล้านบาท
⁃ 19/11/64 ปิดตลาดที 1,645.06 จุด มูลค่าการซื้อขายสุทธิ 102,896.81 ล้านบาท
ทั้งนี้ หากแบ่งแยกตามประเภทนักลงทุน พบว่านักลงทุนสถาบันในประเทศเริ่มกลับมาซื้อเพิ่มขึ้นอีกครั้ง โดยมีมูลค่าการซื้อขายสุทธิในแดนบวกมากที่สุด เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนที่มีมูลค่าซื้อขายในแดนลบ ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ เป็นไปดังต่อไปนี้
⁃ นักลงทุนต่างประเทศ -1,983.90 ล้านบาท
⁃ บัญชีหลักทรัพย์ในประเทศ +1,221.82 ล้านบาท
⁃ สถาบันในประเทศ +2,996.84 ล้านบาท
⁃ นักลงทุนทั่วไปในประเทศ -2,234.76 ล้านบาท
โดยหากดูข้อมูลซื้อขายสะสมสุทธิของนักลงทุนแต่ละประเภทตั้งแต่ต้นพฤศจิกายน พบว่า กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์มีมูลค่าซื้อขายสะสมในแดนบวกยังคงสูงที่ 4,185.53 ล้านบาท พร้อมด้วยกลุ่มนักลงทุนต่างประเทศก็มีมูลค่าซื้อขายในแดนบวกที่ 2,100.14 ล้านบาท
ในขณะที่นักลงทุนทั่วไปในประเทศ มีมูลค่าซื้อขายสะสมสุทธิในแดนลบมากที่สุดถึง -6,255.15 ล้านบาทเลยทีเดียว
ในส่วนของหุ้นยืนคงยืนในแดนบวกได้ตอนปิดตลาดวันศุกร์ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีอีกครั้ง อาทิ EA, GUNKUL, GPSC, BGRIM, GULF, IRPC, PTTEP พร้อมด้วยกลุ่มสื่อบันเทิง อาทิ MONO, MACO, ONEE
นอกจากนี้ ท่ามกลางข่าวการรวมกิจการระหว่าง DTAC และ TRUE ก็ได้ส่งผลให้หุ้นของทั้งคู่ปรับตัวเพิ่มขึ้นภายใต้การรอการยืนยันการแจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต
ทั้งนี้ ในรายกลุ่มอุตสาหกรรม กลุ่มประกันภัยเคลื่อนไหวในวันศุกร์มากที่สุด (+1.44%) รองลงมาเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (+0.95%) และกลุ่มชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและเครื่องจักร (+0.75%) ในขณะที่กลุ่มอื่นๆ ยังคงปรับตัวในวันศุกร์ไม่มากนัก
สัปดาห์นี้จึงเป็นสัปดาห์ที่ค่อนข้างฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แต่ตลาดเองก็รับรู้การเคลื่อนไหวดังกล่าวโดยอาจคาดการณ์ถึงเงินเฟ้อที่กำลังสูงขึ้นภายใต้มาตรการการเปิดเมืองที่เศรษฐกิจค่อยๆ ฟื้นตัวอีกครั้ง กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับความอ่อนไหวทางด้านเงินเฟ้อจึงได้รับแรงกดดันพอสมควร แม้ว่าจะมีมาตรการการเปิดเมืองหรือเปิดประเทศเข้ามาช่วยผลักดันก็ตาม
ในด้านความเคลื่อนไหวจากต่างประเทศ หลายๆ เศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยเริ่มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องและค่อนข้างก้าวกระโดดจากฐานการเติบโตของเศรษฐกิจที่น้อยในปีก่อนหน้า ทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ความเคลื่อนไหวเช่นนี้อาจกดดันให้มีแนวโน้มของการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ซึ่งทำให้เงินสกุลกลุ่มยูโรโซนและดอลลาร์แข็งค่าขึ้นรวมไปถึงการเคลื่อนย้ายกลับชองเงืนทุนระหว่างประเทศได้
เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลและปัจจัยรอบด้านที่จะส่งผลต่อแนวทางการลงทุนของทุกท่าน ขอให้สนุกกับการลงทุนครับ
[เพิ่มเติม] ⭐เปิดบัญชีเทรดผ่าน StockRadars กับหลักทรัพย์ กรุงศรี วันนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีขั้นต่ำ ง่าย อนุมัติเร็ว และ ยังได้ใช้ StockRadars “ฟรีทุกฟีเจอร์ !!” สมัครเลยที่ 👉🏻 https://bit.ly/33AyotD
#StockRadars #ทำเรื่องหุ้นเป็นเรื่องง่าย #StockRadarsNews
หรือติดตามเรา ในช่องทางอื่นๆ
Website: https://www.stockradars.news
Application: https://www.stockradars.co/getradars
LINE: @StockRadars https://line.me/R/ti/p/%40stockradars
Telegram: https://t.me/StockRadarsBlockdit: https://www.blockdit.com/stockradars