นักลงทุนหลายๆ ท่านมักจะเคยได้ยินอยู่เสมอว่า หากเราจะลงทุนในสินทรัพย์อะไรบางอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายเพื่อวัยเกษียณ เงินก้อนเพื่อการศึกษา มรดกหรืออะไรก็ตาม สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งที่เราไม่สามารถละเลยความสำคัญได้ นั่นคือ ภาวะเศรษฐกิจในตอนนั้นเป็นอย่างไร เป็นช่วงการเติบโตแบบขาขึ้น แบบอิ่มตัว เริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย เข้าสู่จุดตกต่ำ แล้วนัยยะเศรษฐกิจที่ต่างกันกระทบต่อการลงทุนของเรามากน้อยแค่ไหนหละ
ก่อนอื่นต้องทราบก่อนว่า เศรษฐกิจจะมีสิ่งที่เรียกว่า วงจรหรือวัฏจักรของรอบการเติบโตของเศรษฐกิจ โดซึ่งภาวะเศรษฐกิจในแต่ละช่วงส่งผลต่อผลประกอบการของธุรกิจที่ท่านกำลังลงทุนหรือเป็นเจ้าของอยู่นั่นเอง อีกทั้งช่วงเวลาที่ต่างกัน สิ่งหนึ่งที่ทำให้สินทรัพย์ในอนาคตมีมูลค่าลดลงได้หากเทียบกับมูลค่าในปัจจุบัน นั่นคือ อัตราเงินเฟ้อ
ในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว สินทรัพย์ที่ถูกแนะนำให้ลงทุน นั่นคือ หุ้นสามัญต่างๆ เนื่องด้วยในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจเป็นแบบนี้ ผลประกอบการของหลายๆ บริษัทจะเริ่มดีมากขึ้น อันจะส่งผลให้การลงทุนได้ผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ อีกทั้งในช่วงเวลาดังกล่าว อัตราเงินเฟ้อค่อยๆ เพิ่มขึ้นเช่นกันจากปัจจัยแรงตึงตัวด้านการจับจ่ายใช้สอยที่เพิ่มขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้น เงินฝากในธนาคารหรือเงินสดอาจมีมูลค่าในอนาคตที่ลดลงเมื่อเทียบกับมูลค่าในปัจจุบัน ผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยดูเหมือนว่ามีมูลค่าน้อยลงเมื่อเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ ในขณะที่ผลตอบแทนจากหุ้นสามัญอาจมากกว่าการเพิ่มขึ้นของอัตราเงินเฟ้อในช่วงเวลาดังกล่าวนั้นเอง
ต่อมา หากเศรษฐกิจเริ่มเฟื่องฟูมากขึ้น สินค้าโภคภัณฑ์และอสังหาฯ ก็เป็นตัวเลือกในการลงทุนมากขึ้น เนื่องด้วยความร้อนแรงของเศรษฐกิจทำให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น จนทำให้ผลตอบแทนในหุ้นสามัญอาจต้องขยับไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตหรือเป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้อได้ดีมากขึ้น
ระยะต่อมา เมื่อเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่ภาวะถดถอย เงินฝากหรือตั๋วเงินระยะสั้นก็เป็นทางเลือกหนึ่งในการลงทุนในช่วงแบบนี้ เนื่องด้วยอัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มที่ลดลงประกอบกับผลประกอบการในบริษัทต่างๆ อาจมีแนวโน้มชะลอตัวด้วยเช่นกัน ผลตอบแทนจากการมีสินทรัพย์กลุ่มนี้อาจเป็นสิ่งที่น่าพึงพอใจมากกว่า
และหากเศรษฐกิจตกต่ำ ในช่วงนี้อัตราเงินเฟ้อที่มีแนวโน้มต่ำลงประกอบอัตราดอกเบี้ยอาจลดลงเช่นกันจากนโยบายการเงินแบบขยายตัวเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนในหุ้นกู้หรือตราสารอย่างพันธบัตรก็จะทำให้ผลตอบแทนได้ในอัตราที่แน่นอนมากกว่าเงินฝากที่ได้เป็นผลตอบแทนจากอัตราดอกเบี้ยที่ไม่สูงมากนัก
เชื่อว่า นักลงทุนหลายๆ ท่านก็คงจะเห็นภาพกันแล้วว่า เราจำเป็นต้องลงทุนในสินทรัพย์ที่ต่างกันภายใต้ช่วงเวลาของวงจรเศรษฐกิจที่แตกต่างกันตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น อย่างไรก็ตาม ก็ไม่ได้หมายความว่าสินทรัพย์ในกลุ่มเดียวกันของแต่ละช่วงเวลาจะให้ผลตอบแทนที่คล้ายๆ กัน อาทิ หุ้นสามัญ ในช่วงภาวะเศรษฐกิจแบบถดถอยหรือเริ่มฟื้นตัว กลุ่มธุรกิจแต่ละหมวดอาจได้รับอานิสงค์หรือเทรนด์การบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้แบบแตกต่างกันออกไปได้เช่นกัน
แล้วคุณผู้อ่านคิดเห็นว่าการลงทุนในตลาดแต่ละประเทศ ณ ตอนนี้ สินทรัพย์ที่ไปลงทุนต้องเป็นอย่างไรกันบ้างครับ?
[เพิ่มเติม] ⭐เปิดบัญชีเทรดผ่าน StockRadars กับหลักทรัพย์ กรุงศรี วันนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีขั้นต่ำ ง่าย อนุมัติเร็ว และ ยังได้ใช้ StockRadars “ฟรีทุกฟีเจอร์ !!” สมัครเลยที่ 👉🏻 https://bit.ly/33AyotD
#StockRadars #ทำเรื่องหุ้นเป็นเรื่องง่าย #StockRadarsNews
หรือติดตามเรา ในช่องทางอื่นๆ
Website: https://www.stockradars.news
Application: https://www.stockradars.co/getradars
LINE: @StockRadars https://line.me/R/ti/p/%40stockradars
Telegram: https://t.me/StockRadarsBlockdit: https://www.blockdit.com/stockradars