บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC แจ้งให้ทราบถึงผลการดำเนินงานงวดปี 2563 โดยกล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งมีผลต่อภาวะเศรษฐกิจ และกำลังซื้อของผู้บริโภค รวมถึงการลดลงของกลุ่มนักท่องเที่ยวได้ส่งผลกระทบต่อจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนท่ี โดยฐานลูกค้าระบบเติมเงินมีจำนวนลดลง 1.7 ล้านเลขหมาย หรือลดลงร้อยละ 5 เทียบกับปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการลดลงของจำนวนลูกค้ากลุ่มนักท่องเที่ยว ประกอบกับกระแสการย้ายบริการจากระบบเติมเงินไปยังระบบรายเดือนอย่างต่อเนื่อง
อันเป็นผลจากแคมเปญส่วนลด เครื่องโทรศัพท์ในขณะที่กระแสการย้ายบริการดังกล่าว เป็นปัจจัยหนุนให้ลูกค้าระบบรายเดือนเติบโตสูงถึงร้อยละ 12 เทียบกับปีก่อน โดยเพิ่มเป็นร้อยละ 25 ของฐานลูกค้ารวม จากร้อยละ 22 ในไตรมาส 4/2562 แม้จำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนท่ี ณ สิ้นปี 2563 จะลดลงมาอยู่ท่ี 41.4 ล้านเลขหมาย หรือลดลงร้อยละ 1.4 จากปีก่อน แต่เอไอเอสยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนท่ีด้วยส่วนแบ่งทางการตลาดเชิงผู้ใช้บริการและเชิงรายได้อันดับ 1 ทั้งน้ี จากผลกระทบของกำลังซื้อที่อ่อนตัวของผู้บริโภคได้กดดัน ARPU เฉลี่ยลดลงเป็น 234 บาท โดยลดลงร้อยละ 7.0 เทียบกับปีก่อน
ซึ่งการเติบโตของผู้ใช้บริการเอไอเอส ไฟเบอร์ ได้รับแรงหนุนจากความต้องการเชื่อมต่อภายในบ้านที่สูงในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาด ในปี 2563 มีจำนวนผู้ใช้บริการสุทธิเพิ่มขึ้น 299,300 ราย รวมเป็นจำนวนผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 1,336,900 ราย หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 29 เทียบกับปีก่อน ซึ่งเติบโตอย่างมีนัยสำคัญเหนืออัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมโดยเฉลี่ยร้อยละ 10-12 โดยประมาณ อย่างไรก็ตามด้วยการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรงตลอดทั้งปี โดยผู้ให้บริการต่างนำเสนอส่วนลดและแพ็กเกจในระดับราคาต่ำ ส่งผลให้ ARPU ลดลงเป็น 476 บาท จาก 533 บาท ในไตรมาส 4/2562
โดยมีรายละเอียดผลการดำเนินงานงวดปี 2563 ดังนี้
👉🏻 ซึ่งบริษัทฯ มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 27,434,360 ลบ. ลดลงจาก 31,189,571 ลบ. ในปีที่แล้ว หรือ -8.9% YoY
👉🏻 โดยมีรายได้ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ อยู่ที่ 118,082 ลบ. ลดลงจาก 126,341 ลบ. ในปีที่แล้ว หรือ -6.5% YoY
👉🏻 ซึ่งรายได้ธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง อยู่ที่ 6,959 ลบ. เพิ่มขึ้นจาก 5,722 ลบ. ในปีที่แล้ว หรือ +1.0% YoY
👉🏻 รายได้ค่าเชื่อมโยงโครงข่ายและการเป็นพันธมิตรกับทีโอที อยู่ที่ 13,722 ลบ. เพิ่มขึ้นจาก 13,557 ลบ. ในปีที่แล้ว หรือ +1.2% YoY
👉🏻 รายได้จากการขายซิมและอุปกรณ์ อยู่ที่ 29,574 ลบ. ลดลงจาก 30,765 ลบ. ในปีที่แล้ว หรือ -3.9% YoY
👉🏻 โดยมีรายได้จากการให้บริการหลัก อยู่ที่ 129,594 ลบ. ลดลงจาก 136,572 ลบ. ในปีที่แล้ว หรือ -5.1% YoY
👉🏻 สำหรับรายได้การให้บริการ อยู่ที่ 143,316 ลบ. ลดลงจาก 150,129 ลบ. ในปีที่แล้ว หรือ -4.5% YoY
👉🏻 ส่งผลให้มีรายได้รวม อยู่ที่ 172,890 ลบ. ลดลงจาก 180,894 ลบ. ในปีที่แล้ว หรือ -4.4% YoY
👉🏻 และมีกำไรสุทธิต่อหุ้น อยู่ที่ 9.23 บาท ลดลงจาก 10.49 บาท ในปีที่แล้ว
สำหรับปี 2564 บริษัทฯ มุ่งเสริมความแข็งแกร่งของความของความเป็นผู้นำในธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ด้วยบริการ 5G เพื่อจับกลุ่มตลาดที่มีมูลค่าสูงทั้งสำหรับผู้บริโภคและลูกค้าองค์กร อีกทั้งด้วยสินค้าและบริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง และเน้นกลยุทธ์รักษาฐานลูกค้าที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
โดยบริษัทฯ ได้คาดการณ์ผลดำเนินงานสำหรับปี 2564 โดยทั้งรายได้จากการให้บริการหลัก และ EBITDA จะเติบโตในอัตราเลขตัวเดียวระดับต่ำ ส่วนงบประมาณการลงทุนสำหรับโครงการ 5G และ 4G รวมทั้งธุรกิจอินเทอร์เน็ตบ้านรวมทั้งสิ้นประมาณ 25,000-30,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ คณะกรรมการบริษัท ได้อนุมัติการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2563 ให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 6.92 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินประมาณ 20,577 ล้านบาท โดยบริษัทได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลเมื่อวันที่ 3 กันยายน 2563 ในอัตรา 3.24 บาทต่อหุ้น ดังนั้นคงเหลือจ่ายปันผลสำหรับงวดนี้ที่ 3.68 บาทต่อหุ้น หรือประมาณ 75% ของกำไรสุทธิ กำหนดให้จ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นที่มีรายชื่อปรากฏ ณ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 โดยขึ้นเครื่องหมาย XD วันแรกคือวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2564 และจ่ายเงินปันผลในวันที่ 20 เมษายน 2564
[เพิ่มเติม] ⭐️ เปิดบัญชีเทรดผ่าน StockRadars กับหลักทรัพย์ กรุงศรี วันนี้ไม่มีค่าใช้จ่าย ไม่มีขั้นต่ำ ง่าย อนุมัติเร็ว และ ยังได้ใช้ StockRadars “ฟรีทุกฟีเจอร์ !!”
สมัครเลยที่ 👉🏻 https://bit.ly/33AyotD
You must be logged in to post a comment.