สรุปครึ่งปีแรก 2563 บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย รายงานกำไรสุทธิ 187,901 ล้านบาท ลดลงเกือบ 60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เซ่นพิษโควิด-19 และสงครามราคาน้ำมันในไตรมาสแรก
นายแมนพงศ์ เสนาณรงค์ รองผู้จัดการ หัวหน้าสายงานผู้ออกหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า บจ. จำนวน 691 บริษัท นำส่งงบการเงินครึ่งปีแรก 2563 และไตรมาส 2/2563 พบว่า บจ.ที่รายงายผลกำไรสุทธิมีจำนวน 456 บริษัท คิดเป็น 66% ของทั้งหมด
ซึ่งยอดขายรวมอยู่ที่ 5.03 ล้านล้านบาท ลดลง 13% กำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core operating profit) 2.73 แสนล้านบาท ลดลง 43.8% และกำไรสุทธิที่ 1.88 แสนล้านบาท ลดลง 58.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
การลดลงของรายได้ ทำให้ดัชนีชี้วัดความสามารถทำกำไรลดลง โดยมีอัตรากำไรขั้นต้น (Gross profit margin) ลดลงจาก 21.3% เป็น 20.5% อัตรากำไรจากการดำเนินงานหลัก (Core profit margin) ลดลงจาก 8.4% เป็น 5.4% และอัตรากำไรสุทธิ (Net profit margin) กลดลงจาก 7.8% เป็น 3.7%
“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ บจ. ไทยได้รับผลกระทบในวงกว้าง เกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรร ทั้งด้านยอดขายและกำไรสุทธิ อย่างไรก็ดี การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคจากมาตรการ Social distancing ทำให้ บจ. มีการปรับตัว โดยเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าและบริการผ่านรูปแบบดิจิทัลมากขึ้น รวมถึงการทำงานจากบ้าน (work from home) ส่งผลให้ผู้บริโภคใช้อุปกรณ์และเทคโนโลยี เพื่อการสื่อสารมากขึ้น และทำให้กลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรแและอุตสาหกรรมอาหาร และอุตสาหกรรมเทคโนโลยี ยังคงมีกำไรจากการดำเนินงานหลัก ปรับเพิ่มขึ้นได้” นายแมนพงศ์ กล่าว
ทั้งนี้ ฐานะทางการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 2/2563 บจ. ไทยมีหนี้สินเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อัตราหนี้สินต่อทุน (ไม่รวมอุตสาหกรรมการเงิน) ปรับสูงขึ้นมาอยู่ที่ 1.57 เท่า เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 1.35 เท่า.ส่วนผลดำเนินงานของ บจ. ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) มียอดขายรวม 82,540 ล้านบาท ลดลง 7.9% กำไรจากการดำเนินงานหลัก 3,068 ล้านบาท ลดลง 8.4% และกำไรสุทธิ 1,086 ล้านบาท ลดลง 73% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
You must be logged in to post a comment.