บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL เจ้าของร้านสะดวกซื้อภายใต้เครื่องหมายการค้า 7-Eleven ได้รายงานผลดำเนินงานประจำไตรมาส 2/2563 ระบุรายได้รวม 128,027 ล้านบาท ลดลง 10.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากรายได้จากการขายและบริการของทั้งธุรกิจร้านสะดวกซื้อ และธุรกิจค้าส่งแบบชำระเงินสดและบริการตนเอง “สยามแม็คโคร” เป็นผลมาจากมาตรการควบคุมการระบาดของโควิด-19 จากรัฐบาล ซึ่งกระทบรายได้ของบริษัทอย่างรุนแรงมากในเดือนเมษายน และลดระดับลงในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน ตามลำดับ
กำไรขั้นต้นจากการขายและบริการ 26,442 ล้านบาท ลดลง 14.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้กำไรขั้นต้นในงบการเงินรวมของบริษัท ลดลง 21.5% จาก 22.5% ในช่วงไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องมาจากกำไรขั้นต้นในธุรกิจร้านสะดวกซื้อลดลง
และกำไรสุทธิในไตรมาสนี้ เท่ากับ 2,887.03 ล้านบาท จากไตรมาส 2/2562 ที่ 4,794.61 ล้านบาท ลดลง 1,907.58 หรือ 40% YoY
ส่วนผลดำเนินงานรอบครึ่งปีแรก 2563 รายได้รวมอยู่ที่ 273,881 ล้านบาท ลดลง 2.8% YoY ในขณะที่กำไรสุทธิ 8,532 ล้านบาท ลดลง 19.2% YoY และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่หุ้นละ 0.89 บาท
นอกจากนี้ บริษัทได้เปิดเผยถึงการควบคุมการใช้จ่ายอย่างรัดกุม โดยต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหารเท่ากับ 26,015 ล้านบาท ลดลง 9.4%
You must be logged in to post a comment.