HomeOn RadarsCPALL แจงค่าใช้จ่ายจัดการร้าน 7-11 สู้โควิดเพิ่มขึ้น แต่ยังรักษาระดับรายได้รวม 1.45 แสนลบ.

CPALL แจงค่าใช้จ่ายจัดการร้าน 7-11 สู้โควิดเพิ่มขึ้น แต่ยังรักษาระดับรายได้รวม 1.45 แสนลบ.

โควิด-19 กระทบ CPALL อย่างแรงตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ทำกำไรขั้นต้นงบการเงินรวมลดลง 22.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากสัดส่วนกำไรจากร้านสะดวกซื้อที่ลดลง แต่ยังคงรักษารายได้ของงบการเงินรวม 145,856 ล้านบาท

โดยไตรมาส 1/2563 เปิดร้านสะดวกซื้อสาขาใหม่ทั้งสิ้น 271 สาขา รวมเป็น 11,983 สาขา ทำรายได้ธุรกิจร้านสะดวกซื้อรวม 82,885 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

  • ยอดขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 78,872 บาท
  • ยอดซื้อต่อบิลโดยประมาณเท่ากับ 70 บาท
  • จำนวนลูกค้าต่อสาขาเฉลี่ยต่อวัน 1,122 คน

ทั้งนี้ บริษัทมีต้นทุนการจัดจำหน่ายและค่าใช่จ่ายในการบริหาร 27,307 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3% จากปีก่อน โดยหลักมาจากค่าใช้จ่ายจากการขยายสาขา การบริหารจัดการร้านจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการจัดตั้งและดำเนินธุรกิจในระยะเริ่มต้นของจีนและเมียนมาของสยามแม็คโคร

โดยงบการเงินรวมสรุปรายได้บริษัทและบริษัทย่อย 145,856 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 5.2% โดยปัจจัยหลักมาจากรายได้จากการขายและบริการของธุรกิจร้านสะดวกซื้อจากสาขาใหม่ที่เปิดในรอบปีที่ผ่านมา และรายได้จากการขายและบริการของธุรกิจศูนย์จำหน่ายสินค้าระบบสมาชิกแบบชำระเงินสดและบริการตนเองภายใต้ชื่อ “สยามแม็คโคร”

กำไรขั้นต้นของงบการเงินรวมลดลง 22.3% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยหลักมาจากกำไรขั้นต้นที่มาจากธุรกิจร้านสะดวกซื้อลดลงตามที่กล่าวมา

ส่งผลให้กำไรสุทธิ เท่ากับ 5,645 ล้านบาท ลดลง 2.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน และกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 0.60 บาท