HomeOn Radars‘เฮียฮ้อ’ ยืนยัน Entertainmerce แข็งแกร่ง พาโตสวนกระแส ดันกำไรนิวไฮตามเป้า

‘เฮียฮ้อ’ ยืนยัน Entertainmerce แข็งแกร่ง พาโตสวนกระแส ดันกำไรนิวไฮตามเป้า

จากสถานการณ์การแพร่กระจายของโควิด-19 กลายเป็นรคระบาดครั้งใหญ่ของโลกที่ส่งผลกระทบให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจไปทั่วโลก แต่ บริษัท อาร์เอส จํากัด (มหาชน) หรือ อาร์เอส กรุ๊ป กลับปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว และยังคงเติบโตสวนกระแสได้ตั้งแต่ต้นปี ดันยอดขาย commerce โตขึ้นทั้งทาง on air และ online นั่นเป็นเพราะ “Entertainmerce” ธุรกิจโมเดลใหม่ที่แตกต่าง ซึ่งผนวกทั้งธุรกิจ Entertainment และ Commerce เข้าด้วยกันอย่างแข็งแกร่งและเบ็ดเสร็จตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

โดยผลดำเนินงานไตรมาสที่ 1/2563 กำไรสุทธิเติบโตสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 186.5 ล้านบาท อัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้น 55.6% ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้า 45.9% และ 41.4% ตามลำดับ ซึ่งเป็นผลมาจากรายได้ที่เติบโตสูงขึ้นจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายและการบริหารจัดการฐานข้อมูลลูกค้า ร่วมกับการทำโปรโมชั่นของธุรกิจพาณิชย์ และบริหารคอนเทนต์ของธุรกิจสื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ บริษัทยังได้ควบคุมต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพในทุกหน่วยธุรกิจ

ในปัจจุบัน RS GROUP แบ่งโครงสร้างธุรกิจเป็น 2 ส่วน คือ

  1. ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเมนท์และมีเดีย ซึ่งได้แก่ ธุรกิจทีวีดิจิทัล ช่อง 8 ธุรกิจคลื่นวิทยุ COOLfarenheit และธุรกิจเพลง
  2. ธุรกิจคอมเมิร์ซ ซึ่งได้แก่ RS Mall แพลตฟอร์มจำหน่ายสินค้าและบริการในหลากหลายกลุ่ม และ Lifestar บริษัทผลิตสินค้านวัตกรรมเพื่อสุขภาพและความงาม

นายสุรชัย เชษฐโชติศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “สัดส่วนธุรกิจในปัจจุบันของอาร์เอส กรุ๊ป แบ่งเป็น Commerce 60% และ Entertain & Media 40% เราเชื่อว่าใน 2 ปี Commerce จะโตขึ้นจนเป็น 80% แต่ไม่ได้หมายความว่า Entertain & Media จะไม่โตขึ้น

แต่สัดส่วนการเติบโตของ Commerce จะโตเร็วกว่า เพราะด้วยมูลค่าตลาดที่ใหญ่กว่ามาก

“การที่เรามองโอกาสและเตรียมพร้อมอยู่เสมอ จึงทำให้ธุรกิจของเราเติบโตมากกว่าได้รับผลกระทบในไตรมาสแรกของปี 2563 เพราะเรามีธุรกิจที่หลากหลายและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้รวดเร็ว”

นายสุรชัย กล่าวย้ำว่า “แม้สถานการณ์การแพร่กระจายของโควิด-19 ในปัจจุบันจะส่งผลให้เศรษฐกิจโดยรวมหยุดชะงัก แต่จากวิสัยทัศน์ของ อาร์เอส และการทำธุรกิจภายใต้โมเดล ‘Entertainmerce’ ที่มีธุรกิจหลักที่แข็งแกร่งทั้งธุรกิจสื่อและธุรกิจเพลง และเราสามารถหลอมรวม synergy กันได้ดี ทำให้เราชนะและสำเร็จในธุรกิจ Commerce ได้เร็ว ถ้าพูดในแง่ value chain เรามีตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำที่เราสามารถเข้าไปควบคุมและจัดการได้ตลอดกระบวนการ จึงส่งผลให้การ synergy ระหว่างต้นน้ำถึงปลายน้ำเป็นไปอย่างสมบูรณ์  ด้วยความแตกต่างและศักยภาพของทีมงาน เฮียมั่นใจว่าปี 2563 เราจะทำกำไรนิวไฮได้ตามเป้า”