HomeUncategorizedสิ่งที่แย่กว่าความไม่รู้… คือการที่ไม่รู้แล้วคิดว่ารู้

สิ่งที่แย่กว่าความไม่รู้… คือการที่ไม่รู้แล้วคิดว่ารู้

(บทความโดย Radars-X)

เมื่อวานนี้มีเหตุการณ์วุ่นวายในตลาด Future ของราคาน้ำมัน WTI Crude Oil สำหรับสัญญาส่งมอบเดือน พฤษภาคม ที่จะอนุญาตให้ทำการซื้อขายได้ก่อนหมดสัญญาในวันที่ 20 เมษายน ก็คือเมื่อวานนั่นเอง

พบว่าราคา Future ร่วงหนักมากในระหว่างการทำการซื้อขาย

จากราคาเปิดที่ราว ๆ $17 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐ และลงไปต่ำสุดถึง -$37.63 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกที่ตลาด Future มีการซื้อขายกันที่ราคาติดลบแบบนี้

มีสิ่งหนึ่งที่เราต้องทำความเข้าใจในเรื่องนี้ก็คือ

  1. เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในตลาดซื้อขายน้ำมันล่วงหน้า และเป็นเฉพาะ Series เดือน May หรือ พฤษภาคมที่กำลังจะหมดอายุเท่านั้น ส่วน Series พลอยได้รับผลกระทบความกังวลไปด้วย แต่ไม่ได้ลดลงรุนแรงเท่า
  2. สัญญาซื้อขายล่วงหน้า WTI Crude Oil May 20 นั้น มีปริมาณการซื้อขายน้อยมาก ๆ แล้ว เรียกได้ว่า liquididy ต่ำมาก ๆ เนื่องจากคนทำการเปลี่ยนตัวไปเล่น สัญญาเดือน June ที่ยังมีเวลาให้ซื้อขายมากกว่าแทน

3.คนที่ซื้อสัญญานี้มีปริมาณซื้อขายก่อนหน้านี้ค่อนข้างมาก เนื่องจากอาจจะเกิดจากการเก็งกำไรน้ำมันที่มาก เพราะเข้าไปรับเมื่อน้ำมันราคาลดลง แต่ไม่สามารถเปลี่ยนสัญญา Roll Over ไปยังเดือน June ได้ทัน

  1. สัญญาซื้อขายล่วงหน้านี้ เมื่อหมดสัญญาก็คือเมื่อวาน จะต้องมีการส่งมอบน้ำมันกันจริง ๆ ไม่ได้เหมือนบ้านเราที่เราเล่น SET50 Future , Gold Future แล้วใช้ราคาอ้างอิงเฉย ๆ พอหมดสัญญาเราก็จ่ายส่วนต่าง กำไรขาดทุนแค่นั้นไป แบบนี้เรียกว่า Cash Settlement ส่วนสัญญา WTI Crude Oil นั้น จะเป็นการส่งมอบน้ำมันจริง ๆ ให้เลย เรียกว่า Physical Settlement

จากเหตุผลข้างต้นโดยเฉพาะ Key หลักของเรื่องนี้ก็คือการเก็งกำไรเมื่อคิดว่าราคามันลงมามากแล้ว และการส่งมอบของจริง ๆ Physical Delivery นั้น ทำให้เกิดปรากฎการณ์เมื่อคืน ซึ่งเหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนจะหมดสัญญา นักลงทุนที่เพียงเล่นเก็งกำไรเท่านั้น ต้องพยายามขายสัญญาตัวเองออกมาให้หมด โดยไม่สนใจราคาที่จะขายได้ ขอเพียงให้ปิดสัญญาได้ก็ได้ (ไม่แน่ใจว่ามีการบังคับขายร่วมด้วยหรือไม่)

ถามว่าทำไมถึงยอมขาดทุนขายออกมาราคาต่ำมากถึง -$37.63 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐ ก็เพราะว่าถึงจะขาดทุนแต่ก็ถือว่าจบแล้ว ขาดทุนเท่านี้ ดีกว่าการไปรับมอบน้ำมันจริง ซึ่งอาจจะมีค่าใช้จ่ายมากมายมหาศาลตามมามากกว่านั้น และยิ่งคนเทรดน้อยมีเฉพาะคนที่อยากได้น้ำมันจริง ๆ เท่านั้น ตลาดจึง Crash ลงมา

ค่าใช้จ่ายในการเก็บน้ำมันซึ่งไม่รู้ว่าต้องเก็บนานแค่ไหนถึงจะขายออก เพราะตอนนี้น้ำมันก็ล้นความต้องการ การขนส่ง การจัดการต่าง ๆ ดังนั้นการยอมขายที่ -$37.63 เหรียญดอลล่าห์สหรัฐ อาจจะคุ้มกว่าก็ได้

หากเราจะได้บทเรียนอะไรจากเรื่องนี้
นี่คือสัญญาณเตือนอย่างจริงใจ
และเป็นบทเรียนที่นักลงทุนทุกคนต้องหันมาดู

คุณไม่ศึกษา ไม่เข้าใจ ไม่มีความรู้เพียงพอใน Product ที่คุณจะลงทุน เห็นราคาลงมาเยอะแล้ว ก็เข้าไปเก็งกำไร หวังรวยไว ก็เหมือนการจอดรถเก็บเศษเงินที่ร่วงหล่นอยู่บนทางด่วน …. มีความเสี่ยงอย่างมากที่รถที่วิ่งเร็ว ๆ มาด้านหลังจะพุ่งชนเรา

และเหนือสิ่งอื่นใด ..
สิ่งที่แย่กว่าความไม่รู้ … คือการที่ไม่รู้แล้วคิดว่ารู้ …
คิดว่ารับความเสี่ยงไหว คิดว่ายังไง ๆ ก็ต้องมีคนมาซื้อ เหมือนดังเหตุการณ์นี้

ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาวิกฤต สิ่งที่เคยคิดว่าอาจจะใช้ได้ในอดีต ตอนนี้อาจจะไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกแล้ว ก็ได้

ถ้าคนไม่รู้เค้าก็อาจจะไม่ได้เข้ามาเล่น มาเก็งกำไร
แต่นักลงทุนที่คิดว่าตัวเองรู้ … เวลานี้คือเวลาเห็นการทบทวนการลงทุนของตัวเราเองให้ดี ดูความเสี่ยงให้รอบด้าน และดูว่าเรารับได้มากแค่ไหน

หากยังไม่มั่นใจ การเลือกถือเงินสด
หรือชะลอการลงทุนไว้ก่อน
เพื่อศึกษาให้แน่ใจและมั่นใจ
เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง
ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุน …..

การขาดทุนกำไรเพราะไม่ได้ลงทุนนั้น
เราอาจจะเพียงแค่เสียดาย …
แต่การขาดทุนกินไปถึงเงินต้นเพราะลงทุนผิดพลาดนั้น
อาจจะทำให้เราเสียใจ ไปตลอดก็ได้ โปรดพิจารณาให้ดี ..