แล้วบริษัทจะซื้อหุ้นคืนไปทำไม?

ในช่วงนี้ต้องยอมรับว่าตลาดหุ้น panic มากๆ จนเราเห็นบริษัทมากมาย ทำโครงการซื้อหุ้นคืน

ที่สำคัญประกาศซื้อหุ้นที่หมุนอยู่ในตลาดด้วย นั่นคือเค้าไม่เกี่ยงราคาเลย

แล้วเพราะอะไร บริษัทถึงต้องทำแบบนั้น?

อันดับแรก ที่ราคานี้ถือว่าคุ้มค่าในเชิงมูลค่าพื้นฐานของบริษัทแล้ว…ก็แน่นอน บริษัทไม่ได้ตั้งใจถือเฉพาะเก็งกำไรราคาอยู่แล้ว และมีเงินสดเหลืออยู่ ข้อดีก็คือจะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ถือหุ้นได้อีกทางหนึ่งด้วย

ที่สำคัญเป็นผู้ดำเนินธุรกิจเอง รู้ประโยชน์และความเสี่ยงที่บริษัทกำลังได้รับ ผลกระทบตรงนี้อาจเป็นผลกระทบระยะสั้น อาจจะทบเพียงเล็กน้อย ถ้าเทียบกับรายได้ที่กำลังจะทำได้

หรืออาจจะเป็นว่า ในปีนี้บริษัทมีออร์เดอร์ที่ขายได้ รออยู่แล้ว จนโรคไวรัส หรือสงครามการค้า ก็ไม่มีผลกระทบ เพราะงานนั้นยังไม่ได้ถูกบันทึกเป็นรายได้นั่นเอง

แล้วถ้าบริษัทซื้อหุ้นคืนแล้ว จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?

เพราะเป็นหุ้นที่กระจายอยู่ในตลาด ไม่ใช่การขายนอกตลาด ที่ดิวราคากันเอง แต่นี่เป็นการซื้อตามราคาตลาด จึงทำให้สภาพคล่องที่มีอยู่ลดลงไปโดยอัตโนมัติ

และแน่นอน เมื่อหุ้นลดลง ก็จะทำให้การจ่ายปันผลต่อหุ้นอาจจะมีการจ่ายได้มากขึ้น คิดง่ายๆ ว่าจำนวนหารลดลง

หมายถึงกำไรต่อหุ้นก็จะมากขึ้นด้วย หากทำกำไรได้เท่าเดิม หรือลดลงนิดหน่อย ก็ยังสามารถทำให้ค่ากำไรต่อหุ้นสูงอยู่ได้

แต่ในอีกมุมการที่บริษัทซื้อหุ้นคืน ก็เหมือนการตัดโอกาสในการใช้เงินสดที่มีอยู่ เอาไปลงทุนโครงการอื่นๆ ในอนาคตด้วย

สุดท้ายเมื่อจบโครงการ ดำเนินการซื้อหุ้นได้ตามจำนวนและอยู่ในกรอบระยะเวลาที่กำหนดไว้แล้ว บริษัทอาจมีการขายกระจายหุ้นต่อ หรือทำลายหุ้นทิ้ง เพื่อลดสภาพคล่องของหุ้นก็ได้ ตรงนั้นก็คงต้องว่ากันอีกที

เพิ่มเติม : หุ้นที่เพิ่งประกาศว่าโครงการซื้อหุ้นคืนจบไปหมาดๆ เมื่อวันที่ 10 มี.ค. 2563 คือ บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU ได้ดำเนินการซื้อหุ้นคืนรวมทั้งหมด 87,344,000 หุ้น คิดเป็น 1.69% ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด โดยใช้เงินเป็นมูลค่ารวม 1,157 ล้านบาท