โคโรนาระบาดหุ้นไทยร่วงเกือบ 20 จุด
วันนี้ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยปิดตลาดที่ระดับ 1,496.06 จุด ปรับตัวลดลง 18.08 จุด หรือ 1.19% มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 53,178.96 ล้านบาท เคลื่อนไหวในกรอบ 1,495.94 – 1,513.43 จุด
วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการ บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่าดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มแกว่งผันผวน เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นและเศรษฐกิจทั่วโลก หากสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะแกว่งในขาลง แต่ไม่ลดลงมากและปรับตัวต่ำสุดภายในเดือนกุมภาพันธ์นี้ จึงเชื่อว่าดัชนีที่แนวรับอยู่ที่ 1,450 จุด
หุ้นจีนเปิดตลาดร่วง 8% หลังหยุดตรุษจีน
เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ดัชนี Shanghai Composite (SSEC) หลังเปิดตลาดอยู่ที่ 2,734.66 จุด ปรับตัวลดลง 241.87 จุดหรือ 8.13 % ขณะที่ดัชนี Shenzhen Composite (SZSE ) ของตลาดหลักทรัพย์เซินเจิ้นแตะระดับ 9,796.19 จุด ปรับตัวลดลง 885.71 จุดหรือ 8.29 % เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ก.ล.ต.จีนเปิดเผยว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะกระทบหุ้นจีนในวงจำกัด พร้อมเตรียมเฝ้าระวังความผิดปกติที่เกิดขึ้น และเตรียมเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง เพื่อรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนเตรียมใช้มาตรการทางการเงิน เช่น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้, การสนับสนุนสินเชื่อให้กับธุรกิจ SME รวมถึงอัดฉีดสภาพคล่องราว 1.2 ล้านล้านหยวน (5 ล้านล้านบาท) เพื่อรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจและลดความผันผวนทางการเงินของประเทศ
ททท.-ทอท. เล็งลดเป้านักท่องเที่ยว หลังโคโรนาระบาด
ยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ระบุว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เป็นปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวมากที่สุด ทำให้ททท.อาจต้องปรับลดเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2563 ที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ 40.8 ล้านคน สร้างรายได้ 2.02 ล้านบาท ส่วนจะเป็นเท่าใดนั้น ยังประเมินได้ยาก แต่สิ่งสำคัญคือการสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวเดินทางกลับมาเดินทางอีกครั้งในครึ่งปีหลังของปีนี้
ขณะที่ นิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่าตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ภาพรวมปริมาณผู้โดยสารที่เดินทางเข้าประเทศไทยผ่าน 6 ท่าอากาศยาน ตั้งแต่วันที่ 23 – 28 มกราคม ขยายตัวลดลง 4% โดยทอท.เชื่อว่าหากสถานการณ์ดังกล่าวจบภายในเดือนนี้ก็จะไม่ส่งผลกระทบกับเป้าหมาย แต่ถ้าสถานการณ์จบช่วยปลายเดือนมีนาคมนี้ ทอท.อาจจะต้องปรับประมาณการณ์ตัวเลขผู้โดยสารใหม่อีกครั้ง
‘คลัง’จ่อชงแพ็คเกจกระตุ้นท่องเที่ยวเข้าครม.
อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เตรียมเสนอมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวที่สนับสนุนทั้งด้านอุปสงค์และอุปทาน เช่น ปรับลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันเครื่องบิน รวมถึงให้ผู้ประกอบการสามารถนำค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงโรงแรมและสถานที่ มาหักลดหย่อนภาษีได้
ส่วนมาตรการชิม ช็อป ใช้ เฟส 4 อาจจะยังไม่ได้เสนอเข้าที่ประชุมครม.พรุ่งนี้ เนื่องจากอยู่ในขั้นต้องการพิจารณารายละเอียดให้รอบคอบก่อน แต่จากการประเมินผลมาตรการชิม ช็อป ใช้ พบว่าบรรลุเป้าหมายในการใช้งบประมาณ 1.9 หมื่นล้านบาท เพราะสามารถช่วยดูแลเศรษฐกิจของประเทศให้หมุนเวียนผ่านการใช้จ่ายได้
รัฐบาลเตรียมรับคนไทยกับจากอู่ฮั่น
อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขระบุว่าในภารกิจรับคนไทย 160 คนจากเมืองอู่ฮั่น รัฐบาลจะส่งผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาและสุขภาพจิตขึ้นเครื่องบินไปด้วย เมื่อคนไทยจากอู่ฮั่นเดินทางกลับมาถึงไทยแล้ว ต้องเข้าสู่กระบวนการควบคุมโรคอีก 14 วัน โดยรัฐบาลเตรียมสถานที่ไว้ 2-3 ที่ ซึ่งขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่าจะเลือกใช้สถานที่ใดในการควบคุมโรค
ขณะที่ พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาว่าจะใช้สนามบินใด แต่มีแนวโน้มว่าจะใช้สนามบินอู่ตะเภา ทั้งนี้ ต้องรอความชัดเจนจากนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง หากรัฐบาลพิจารณาใช้สถานที่ดังกล่าว กองทัพเรือมีความพร้อม ซึ่งคาดว่าจะใช้บ้านพักตากอากาศของกองทัพเรือ เนื่องจากสะดวกในการดูแลและสามารถส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลในสังกัดของกองทัพเรือได้
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนแถลงว่ายอดผู้ติดเชื้อจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเป็น 17,205 ราย ผู้เสียชีวิต 361 ราย ออกจากโรงพยาบาลแล้ว 475 ราย และยังเฝ้าระวังอีก 21,558 ราย
ส่วนนอกประเทศจีนมีผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่น 20 ราย, ไทย 19 ราย (อยู่ในโรงพยาบาล 11 ราย กลับบ้านแล้ว 8 ราย), สิงคโปร์ 18 ราย, เกาหลีใต้และฮ่องกง 15 ราย, ออสเตรเลีย 12 ราย, สหรัฐอเมริกา 11 ราย, ไต้หวันและเยอรมนี 10 ราย, มาเก๊าและมาเลเซีย 8 ราย, ฝรั่งเศสและเวียดนาม 6 ราย, UAE 5 ราย, แคนาดา 4 ราย, อิตาลี รัสเซีย ฟิลิปปินส์ อินเดีย และสหราชอาณาจักร 2 ราย ศรีลังกา กัมพูชา เนปาล ฟินแลนด์ สเปน และสวีเดน ประเทศละ 1 ราย รวมถึงผู้เสียชีวิตในประเทศฟิลิปปินส์อีก 1 ราย