HomeOn Radarsเงินบาทอ่อนค่าที่สุดในรอบ 4 เดือน

เงินบาทอ่อนค่าที่สุดในรอบ 4 เดือน

เงินบาทอ่อนค่าที่สุดรอบ 4 เดือน

ค่าเงินบาทเช้าวันนี้เปิดตลาดที่ 30.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ หลังจากที่เมื่อวานนี้ปิดตลาดที่ 30.70 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ นับว่าอ่อนค่าที่สุดในเอเชียนับตั้งแต่ต้นปีและอ่อนที่สุดในรอบ 4 เดือน ซึ่ง “กาญจนา โชคไพศาลศิลป์” ผู้บริหารงานวิจัย กลุ่มงานวิจัย ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การอ่อนค่าของค่าเงินบาทสอดคล้องกับสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียโดยเฉพาะเงินหยวน โดยเกิดจากความกังวลการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าที่จะกระทบต่อการท่องเที่ยวไทยและมีผลต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ

เช่นเดียวกับ ดร.จิติพล พฤกษาเมธานันท์ หัวหน้านักกลยุทธ์ตลาดทุนสายงานธุรกิจตลาดเงินทุน ธนาคารกรุงไทย ที่เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากภาคการท่องเที่ยว และเกิดจากแรงเทขายเก็งกำไรในตลาดทุนของนักลงทุนต่างชาติ จากปัญหาความกังวลเรื่องไวรัสโคโรน่าระบาด พร้อมมองว่า ถ้ามีแรงเทขายต่อก็อาจจะเห็นค่าเงินบาทอ่อนลงได้อีก

ไวรัสโคโรน่ายังคงระบาดหุ้นไทยทำดัชนีปิดท้ายตลาด -10.89 จุด

วันนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวดีดขึ้นตั้งแต่เปิดตลาดช่วงเช้า แต่กลับมาเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดช่วงบ่าย จนปิดตลาดที่ 1,513.26 จุด ลดลง 10.89จุด หรือ 0.71% มูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 69,174.18 ล้านบาท

“ณัฐพล คำถาเครือ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าตลาดหุ้นไทยเคลื่อนตัวแดนลบในช่วงบ่าย จากผลกระทบของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ และมีแรงถ่วงจากหุ้นกลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ที่เทขายออกมา ขณะที่ ธิดาศิริ ศรีสมิต รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) กสิกรไทย มองว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากความกังวลต่อข่าวไวรัสโคโรนาเช่นกัน และยังประเมินว่าดัชนีหุ้นไทยจะยังคงผันผวนในระยะสั้น โดยคาดว่ารัฐบาลจีนจะมีระบบจัดการที่ดีและสามารถควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว

ททท.เตรียมชงครม.เศรษฐกิจเยียวยาธุรกิจท่องเที่ยว

“ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า หลังจากรัฐบาลจีนออกมาตรการห้ามคนจีนออกจากประเทศเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งจะส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวของไทย เพราะถ้าสถานการณ์ดังกล่าวยืดเยื้อไปถึง 3 เดือน คาดว่าจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนหายไปประมาณ 1.89 ล้านคน หรือ 70% ของจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่คาดว่าช่วง 3 เดือนจะมีประมาณ 2.4 ล้านคน (ปกติประเมินนักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยเฉลี่ยเดือนละ 8 แสนคน) ซึ่งจะทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวไทยหายไป 94,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ ททท.จึงเตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือและกระตุ้นการท่องเที่ยว เข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจในวันศุกร์ที่จะถึงนี้ (31 ม.ค.)

จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสอู่ฮั่นทั่วโลกพุ่ง 4,515 ราย-ตาย 106 ราย

คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีน เปิดเผยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นในจีนเป็น 4,515 ราย และผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 106 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อนอกประเทศจีน ในอีก 17 ประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 62 รายแล้ว

ขณะที่ประเทศไทย นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่าประเทศไทยพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่อีก 6 ราย รวมเป็น 14 ราย ซึ่งผู้ป่วย 5 รายใหม่เป็นคนในครอบครัวเดียวกัน เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ส่วนอีก 1 ราย มาจากมลฑลหูเป่ย ซึ่งปัจจุบันกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กำลังพัฒนาห้องแล็บตรวจเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่จะรู้ผลตรวจภายใน 3 ชั่วโมง รวมถึง สธ.จะร่วมมือและสนับสนุนสายการบินในการคัดกรองผู้ป่วยก่อนไปประเทศจีนด้วย

ครม.เคาะมาตรการส่งเสริมการลงทุน-รถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก

ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันตก ช่วงศูนย์วัฒนธรรม-บางขุนนนท์ ตามที่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นำเสนอ โดยเปิดให้ภาคเอกชนร่วมลงทุน PPP Net cost ระยะเวลา 30 ปี ในส่วนงานโยธาช่วงตะวันตก ระยะทาง 16.4 กม. และลงทุนงานระบบรถไฟฟ้า ขบวนรถ และการเดินรถตลอดสายจากบางขุนนนท์-มีนบุรี ระยะทาง 35.9 กม. จำนวน 29 สถานี วงเงินลงทุน 122,067 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะอุดหนุนเงินลงทุนเอกชนไม่เกินค่างานโยธา วงเงิน 96,012 ล้านบาท และผ่อนชำระคืนเป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากเปิดบริการเดินรถช่วงตะวันออกในปี 2567 ซึ่ง รฟม.คาดว่าจะประกาศคัดเลือกเอกชนภายในเดือน มิ.ย. 2563 และได้ผู้ชนะการประมูลต้นปี 2564

อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจะอุดหนุนเงินลงทุนเอกชนไม่เกินค่างานโยธา วงเงิน 96,012 ล้านบาท และผ่อนชำระคืนเป็นระยะเวลา 10 ปี นับจากเปิดบริการเดินรถช่วงตะวันออกในปี 2567 ซึ่ง รฟม.คาดว่าจะประกาศคัดเลือกเอกชนภายในเดือน มิ.ย. 2563 และได้ผู้ชนะการประมูลต้นปี 2564

นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติให้กระทรวงการคลังออก 3 มาตรการดันการลงทุน เพื่อให้เกิดการลงทุนกว่า 1.1 แสนล้านบาท หรือการขยายตัวทางเศรษฐกิจ 0.25 % คือ 1.มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนในประเทศให้ผู้ประกอบการหักรายจ่ายเพื่อการลงทุนในเครื่องจักรได้ร้อยละ 250 หรือ 2.5 เท่าของรายจ่ายตามจำนวนที่จ่ายจริง 2. มาตรการยกเว้นอากรขาเข้าเครื่องจักรเพิ่ม 146 รายการ (ปัจจุบันเครื่องจักรส่วนใหญ่ได้รับการยกเว้นอากรขาเข้าอยู่แล้ว) 3.มาตรการสินเชื่อเพื่อการลงทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการปรับปรุงเครื่องจักรใหม่หรือซื้อเครื่องจักรใหม่เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.)