ซาอุดิอาระเบียประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันลง 50% หลังโรงกลั่นน้ำมัน 2 แห่งของ Saudi Aramco รัฐวิสาหกิจน้ำมันรายใหญ่ของประเทศ ถูกโดรนโจมตีหลายระลอก
ทางการซาอุดิอาระเบียคาดว่า การลดการผลิตจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันในตลาดหายไป 5.7 ล้านบาร์เรล/วัน หรือ 5% ของปริมาณการผลิตทั่วโลก ในปัจจุบัน ซาอุดิอาระเบียผลิตน้ำมัน 9.85 ล้านบาร์เรล/วัน และส่งออกน้ำมันไปเอเชียกว่า 4 ล้านบาร์เรล/วัน โดยส่งออกไปจีนมากที่สุดอยู่ที่ 1.3 ล้านบาร์เรล/วัน ตามด้วยญี่ปุ่น 1.2 ล้านบาร์เรล/วัน
สถานการณ์ล่าสุดทำให้นักวิเคราะห์มองว่าจะดันให้ราคาสัญญาน้ำมันดิบเปิดตลาดปรับตัวขึ้น 5-10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรลในวันพรุ่งนี้ และอาจปรับขึ้นเกิน 10 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งขึ้นอยู่กับความรวดเร็วในการซ่อมแซมโรงกลั่น
ด้านโบรกเกอร์ต่างๆ ทั้งบล.หยวนต้า (ประเทศไทย) และ บล.โนมูระ พัฒนสิน ต่างมองว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะส่งผลต่อราคาน้ำมัน และดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน
จับตา IPO ของ Saudi Aramco
เหตุโจมตีโรงกลั่นน้ำมันล่าสุด เกิดขึ้นขณะที่ Saudi Aramco กำลังเร่งแผนออก IPO หลังต้องประกาศเลื่อนมาแล้วหลายครั้งก่อนหน้านี้
การออก IPO ของ Saudi Aramco เป็นบิ๊กดีลที่หลายฝ่ายจับตามอง เพราะคาดว่าจะระดมทุนได้ถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐจากการนำหุ้น 5% ของบริษัทออกขาย ซึ่งจะกลายเป็น IPO มูลค่าสูงสุดในโลก
โดย Saudi Aramco เป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ที่มีกำไรมากที่สุดของโลก ซึ่งขณะนี้คาดว่ามีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 2 ล้านล้านดอลลาร์์สหรัฐ
แต่เหตุการณ์ล่าสุดอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน ซึ่งมีแนวโน้มกระทบต่อแผนการออก IPO ของ Saudi Aramco
