Apple ประกาศเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ บริการทีวีสตรีมมิ่ง และผลิตภัณฑ์อื่นๆ ระหว่างงานเปิดตัวผลิตภัณฑ์ประจำปีเมื่อคืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะช่วยกระตุ้นยอดขายสมาร์ทโฟนที่ซบเซาลงของบริษัท และสร้างรายได้จากบริการเพิ่มขึ้นให้ Apple
ไฮไลท์ของงานยังคงเป็น iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่น คือ iPhone 11 ที่จะมาแทนที่ iPhone XR, iPhone 11 Pro มาแทน iPhone XS และ iPhone 11 Pro Max มาแทนที่ iPhone XS Max โดย iPhone 11 Pro และ iPhone 11 Pro Max มาพร้อมกล้องประสิทธิภาพสูงขึ้น 3 ตัว สามารถถ่ายภาพระยะไกลในมุมมองกว้าง 120 องศา และสว่างขึ้น 40% แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น และะเทคโนโลยี Face ID ที่อัพเกรดขึ้น
สิ่งที่น่าสนใจคือ iPhone 11 มีราคาเริ่มต้นที่ 699 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถูกกว่า iPhone XR ถึง 50 ดอลลาร์ที่เปิดตัวเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งนักวิเคราะห์จาก Bloomberg Intelligence มองว่าการหั่นราคา iPhone รุ่นใหม่ลงเป็นสิ่งที่ไม่เคยเห็นมาก่อนจาก Apple
การเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ทั้ง 3 รุ่นเกิดขึ้นท่ามกลางตลาดสมาร์ทโฟนที่อยู่ในช่วงขาลง โดยบริษัทวิจัย IDC คาดการณ์ว่า ยอดขายสมาร์ทโฟนทั่วโลกจะลดลง 2.2% ในปีนี้ ปรับลดติดต่อกันเป็นปีที่ 3 โดยยอดขาย iPhone ร่วงลงมาแล้ว 15% ในปีนี้ หลังเผชิญการแข่งขันอันดุเดือดจากคู่แข่งอย่าง Huawei และ Samsung แม้การเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ที่รองรับ 5G อาจกลับมาช่วยกระตุ้นยอดขายได้ แต่จะยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะถึงปีหน้า
นอกจากภาวะขาลงของตลาดสมาร์ทโฟน Apple ยังเจอแรงกดดันจากสงครามการค้า โดยรัฐบาลสหรัฐเตรียมจะเก็บภาษีเพิ่ม 15% กับ iPhone ที่ผลิตในจีนตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.นี้ โดยเมื่อ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา Apple เจอภาษีระลอกแรกที่รัฐบาลสหรัฐเก็บจากผลิตภัณฑ์อื่นๆ ไปแล้ว เช่น Apple Watch
เปิด Apple TV+ ท้าชน Netflix
ภายในงานเมื่อคืน Apple ยังประกาศเปิดตัวบริการสตรีมมิ่ง Apple TV+ ที่จะเริ่มให้บริการใน 100 ประเทศทั่วโลก ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.นี้ ด้วยราคาเพียง 4.99 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน ถูกกว่าบริการสตรีมมิ่งเจ้าอื่นๆ เช่น Disney+ ที่ 6.99 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน Netflix และ HBO ที่มีราคาเริ่มต้นที่ราว 10 ดอลลาร์สหรัฐ/เดือน ขณะที่ผู้ซื้อผลิตภัณฑ์ของแอปเปิ้ลจะได้ชมฟรีเป็นเวลา 1 ปี โดย Apple TV+ จะมีเพียงคอนเทนต์ที่ Apple เป็นผู้ผลิตเองเท่านั้น
ไม่เพียงเท่านั้น Apple ยังเปิดตัว Apple Arcade บริการเกมแบบสมัครสมาชิกและเล่นได้ไม่อั้นใน 150 ประเทศทั่วโลกด้วยราคา 4.99 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับทั้งครอบครัว ท่ามกลางความพยายามผลักดันการสร้างรายได้เพิ่มจากธุรกิจส่วนบริการ เพื่อหวังชดเชยรายได้จากธุรกิจสมาร์ทโฟนที่ปรับตัวลดลง
นักวิเคราะห์หุ้นรับ iPhone11 แค่เก็งกำไร
“วิจิตร อารยะพิศิษฐ” ผู้อำนวยการอาวุโส นักกลยุทธ์การลงทุน ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า หุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเปิดตัว iPhone ใหม่ที่มักจะได้รับแรงเก็งกำไรเข้ามาโดยตรงคือ บริษัท คอมเซเว่น (COM7) แต่คงต้องรอให้ราคามีการชะลอรอราคาหุ้นย่อลงกว่านี้ก่อน เพราะราคาหุ้นค่อนข้างปรับขึ้นและเต็มมูลค่าหุ้นที่เหมาะสมแล้ว โดยมีอัตราราคาปิดต่อกำไรต่อหุ้น (พี/อี) ที่ค่อนข้างสูงในระดับเดียวกับ พี/อี กลุ่มอุตสาหกรรมที่ 27 เท่า
ขณะที่หุ้น บริษัท เจ มาร์ท (JMART) อาจไม่ได้รับผลโดยตรงจากการเปิดตัว iPhone รุ่นใหม่ แต่มองว่า JMART น่าจะทยอยสะสมจากผลบวกที่เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ได้รับการรับรู้รายได้จากการฟื้นตัวบริษัทลูกอย่าง บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ที่คาดว่าผลประกอบการจะออกมาดีที่ดีขึ้น อีกทั้ง บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ถึงจังหวะการจะเทิร์นอะราวด์ที่ดี
“หากดูจากสัดส่วนรายได้ JMART จะมีรายได้จากยอดขายมือถือเพียงหลัก 100 ล้านบาท เมื่อเทียบกับรายได้ที่จะรับรู้จาก JMT ที่มีประมาณ 300 ล้านบาท”
นอกจากนั้น ยังมองว่าหุ้นที่จะได้รับอานิสงส์ระยะสั้นอีก คือกลุ่มที่สินเชื่อรายย่อย อย่าง บริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) หรือ AEONTS และ บริษัท บัตรกรุงไทย (KTC)
You must be logged in to post a comment.