ในการดูว่าหุ้นตัวไหนดี ตัวไหนไม่ดีนอกจากจะดูกำไรของบริษัทแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ควรพิจารณาประกอบด้วยนั่นคือ ส่วนของผู้ถือหุ้นและหนี้สินนั่นเอง ซึ่งก็เป็นส่วนที่สำคัญไม่แพ้กำไรเลย เพราะจะทำให้เราทราบถึงความมั่นคงคร่าวๆ ของหุ้นตัวนั้นได้ วันนี้ Radars Man จะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับ ส่วนของผู้ถือหุ้นและหนี้สินกันครับ
งบดุลต้องรู้
จริงๆ แล้วนั้น ส่วนของผู้ถือหุ้นและหนี้สินอยู่ในงบดุล ซึ่งโดยทั่วไปนั้นงบดุลจะประกอบด้วยกัน 3 ส่วนคือ ทรัพย์สิน ส่วนของผู้ถือหุ้น และหนี้สิน ถ้าบอกแบบนี้อาจจะยังงงๆ เรามาดูตัวอย่างใกล้ๆ ตัวกันดีกว่า สมมติเราเปิดร้านกาแฟโดยออกเงินเอง 20,000 บาทและกู้ธนาคารมาอีก 80,000 บาท จะเขียนเป็นสมการได้แบบนี้
ร้านกาแฟ (ทรัพย์สิน) 100,000 บาท = เงินของเรา (ส่วนของผู้ถือหุ้น) 20,000 บาท + เงินกู้ธนาคาร (หนี้สิน) 80,000 บาท
ส่วนของผู้ถือหุ้นและหนี้สินบอกอะไร
ลองคิดดูว่าถ้าร้านกาแฟก่อนหน้านี้มีหนี้สินสูงถึง 80% จะต้องส่งดอกเบี้ยขนาดไหน ยิ่งมีอัตราส่วนของหนี้สินสูง ก็จะยิ่งทำให้กำไรที่ทำได้ลดน้อยลงเพราะต้องเอาไปส่งเป็นดอกเบี้ยเงินกู้หมด หุ้นเองก็เช่นกัน ถ้าหุ้นตัวไหนมีส่วนของผู้ถือหุ้นน้อย มีหนี้สินเยอะ ก็จะแสดงว่ารายได้ส่วนใหญ่ต้องเอาไปจ่ายเจ้าหนี้เงินกู้หมด ทำให้ไม่มีเม็ดเงินไปต่อยอดธุรกิจให้เติมโตได้มากนัก ถ้าหุ้นตัวไหนมีส่วนของผู้ถือหุ้นสูงกว่าหนี้สินก็แสดงว่าบริษัทมีความมั่นคงระดับนึง มีรายได้ มีกำไรก็นำไปขยายธุรกิจได้อย่างเต็มที่หรือจะเอาออกมาปันผลก็ไม่เดือดร้อน
D/E Ratio คืออะไร
ค่า D/E เป็นอัตราส่วนที่นำหนี้สินหารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้น (หนี้สิน / ส่วนผู้ถือหุ้น) ผลที่ได้จะเป็นจำนวนเท่า เช่นร้านกาแฟของเรา จะมี D/E = 4 เท่า (80,000 / 20,000) หมายความว่า ร้านกาแฟของเรามีหนี้สินสูงกว่าส่วนผู้ถือหุ้นถึง 4 เท่า!!! ร้านกาแฟของเราจะไปกันรอดมั้ยครับเนี่ย จากสมการจะเห็นว่ายิ่ง ค่า D/E ต่ำยิ่งดี ถ้าสูงมากๆ ธุรกิจก็ยิ่งเสี่ยงมาก เพราะถ้าหมุนเงินไม่ทันก็อาจจะถึงกับล้มละลายได้
D/E Ratio ต่ำดี
กรณียกเว้นของค่า D/E
จากที่บอกว่า D/E ต่ำนั่นดี แต่มันก็มีกรณียกเว้นเช่นกัน นั่นคือ ธุรกิจบางอย่างเช่น หุ้นธนาคาร ธุรกิจนี้มีรูปแบบธุรกิจในการนำเงินของลูกค้ามาปล่อยกู้ต่อ ดังนั้นเงินฝากที่ยืมลูกค้ามาจะมีสถานะเป็นหนี้สินของธนาคาร ถ้าธนาคารมีหนี้สินเยอะก็แสดงว่า คุณเอาเงินมาฝากให้ธนาคารนำไปปล่อยกู้ได้เยอะนั่นเอง ซึ่งอาจจะคิดได้ว่าหุ้นแบบนี้ยิ่งมี D/E เยอะแต่ก็ยังนับว่าดีได้อยู่
อีกหนึ่งเคล็ดวิชา
เอาละครับ ตอนนี้เราก็ได้วิชาดูหุ้นดีมาเพิ่มอีก 1 วิชากันแล้วนอกจากเรื่องกำไร จะเห็นว่าการมองหุ้นนั้นไม่ได้ยาก ถ้าเราคิดว่าเรากำลังมองดูธุรกิจ เราคิดว่าธุรกิจที่ดี ต้องเป็นอย่างไร นั่นแหละครับ หุ้นที่ดีก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน