ในทุกราคาที่มีการซื้อหรือขายหุ้น ก็จะมี Volume หรือ “ปริมาณการซื้อขาย” กำกับอยู่เสมอ .. ไม่ว่าจะเป็นที่หน้า Bid/Offer หรือ Ticker ก็จะมีตัวเลขบอกปริมาณการซื้อขาย (Volume) วางติดกับราคาหุ้นนั้นอยู่ เพื่อบอกว่าที่ราคานั้น มีการซื้อหรือขายไปแล้วกี่หุ้น
นักลงทุน ยิ่งไม่ควรพลาด ในการใช้ Volume มาช่วยวิเคราะห์การขึ้นของราคาว่าขึ้นจริงรึเปล่า หรือวิเคราะห์การเก็บของของรายใหญ่
ถ้าอยากรู้ว่าใช้ยังไง ก็ตามมาๆๆๆ
.
.
1. รายใหญ่เก็บของ จะรู้ได้ไง
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ เขาย่อมมีของอยู่ในมือเยอะอยู่แล้ว (อินไซท์สุดๆ) และเมื่อโปรเจ็คจะออก หรือข่าวดี หรืออะไรก็แล้วแต่ เขามักจะรู้ก่อนพวกเราเสมอ .. ซึ่งการเก็บหุ้นเข้ากระเป๋าเพิ่ม มันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย … แล้วเราจะรู้ได้ยังไงล่ะ? ตรงนี้ต้องสังเกตครับ .. (รบกวนเปิดแอป StockRadars แล้วเข้าหน้ากราฟหุ้นที่คุณสนใจ) ที่น่าสนใจ คือ Volume ช่วงที่ราคาพักฐาน จะอยู่ประมาณเดิม (มองด้วยตาก็เห็น)
ซึ่งถ้าลองสังเกตตอนตลาดเปิดด้วย จะเห็นชัดเจนว่า Volume เทรดน้อยมากๆๆ เหมือนไม่ค่อยเหลือ Volume อยู่ในตลาดเลย .. ตรงนี้หลายคนเลือกรอจังหวะ ถ้าหุ้นพร้อม + ตลาดพร้อม อะไรก็เกิดขึ้นได้
2. ราคาขึ้นจริง ดูจากไหน
ช่วงนี้มีหุ้นวิ่งแรง ให้เราเห็นบ่อยๆ แต่แรงจริงรึเปล่านะ ??? บางตัววันนี้เขาว่าเบรคแนวต้าน อีกวันโดนตบกลับ ผู้เชี่ยวชาญบอก เบรคหลอก (อ้าว หลอกผมทำไม) ก็ลองดูที่ Volume สิครับ แบรคจริงมักจะมี Volume มา Support “เสมอ” ถ้าขึ้นจริง Volume ซื้อก็จะตามขึ้นไปด้วย
3. ติดดอยอยู่ รู้ตัวรึเปล่า
ถ้าขึ้นดอยนี้ แล้วไปขายดอยหน้า ที่อยู่สูงกว่า ก็โอเคนะครับ ยังไงก็ยังกำไร แต่ถ้า.. ขึ้นดอยที่ไม่มีทางไปต่อล่ะ จะทำยังไงดี .. จุดสังเกตของดอยที่ว่า คือ มันมักจะมีสัญญาณบางอย่างให้เราเห็น เช่น Volume น้อยกว่าดอยที่แล้ว หรือว่ากันง่าย ๆ ว่าราคาสูงขึ้น แต่ซื้อขายน้อยลงแล้ว ถ้าขึ้นแบบไม่มีแรงช่วงผยุง จะขึ้นไปได้ซักเท่าไหร่กัน..
และยังไง Volume หรือปริมาณซื้อขาย ก็เป็นสิ่งที่พวกเราเห็นกันอยู่ทุกวัน.. จะตอนสรุปตลาดตอนเย็น หรือดูกราฟ หรือดู Volume Radars ที่จะคอยบอกเราอยู่เสมอว่า วันนี้ ราคาขึ้นเยอะด้วย และมี Volume ด้วย หรือแม้กระทั่ง ปริมาณหุ้นที่ซื้อขายกันอยู่ น้อยลง จนน่าสงสัยแล้วนะ .. อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณของแต่ละท่านเลยครับ จะไปต่อหรือตกรอบ ก็ดูกันต่อไป